ข้อความต้นฉบับในหน้า
นักบวช นักบวชนั้นจะต้องให้คำสั่งสอนที่ดีงาม แม้อาจจะไม่ถูกใจแต่จะต้องถูกต้องตามหลักศีลธรรม หาใช่
การเพิ่มกิเลสขึ้นในตัวของผู้ที่เราจะไปเป็นกัลยาณมิตร เช่น การทำนายทายทักในสิ่งที่เราไม่รู้จริง การให้
เลขให้หวย ซึ่งแม้จะแม่นหรือไม่แม่น ก็ถือว่ายังมิใช่การทำหน้าที่กัลยาณมิตร และนักบวชที่
กระทำเช่นนี้ก็ยังไม่ชื่อว่าเป็นกัลยาณมิตร
1.2.3 หากพิจารณาลักษณะกัลยาณมิตรโดยยึดหลักของการทำงานร่วมกัน หรือการมีชีวิต
ความเป็นอยู่ร่วมกันผู้ที่จะเป็นกัลยาณมิตรจะต้องมีการทำงานร่วมกันหรืออยู่ด้วยกันอย่างเอื้ออาทรต่างฝ่าย
ต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความปรารถนาดีต่อกันอย่างจริงใจ เช่น หากเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน จะต้องมี
ความปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมชั้น ด้วยการเป็นคู่คิดในการส่งเสริมการเรียนซึ่งกันและกัน ชักชวนกันอ่าน
หนังสือ ทบทวนความรู้ เพื่อการเรียนจะมีผลดีและสามารถศึกษาได้สำเร็จ หากเป็นคู่สมรสก็จะต้องมี
ความซื่อสัตย์ต่อกัน ช่วยเหลือและรักษาน้ำใจซึ่งกันและกัน หากเป็นเพื่อนร่วมงาน บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น
กัลยาณมิตรนั้นจะต้องช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานด้วยความปรารถนาดี คอยช่วยเหลือแนะนำและช่วยแก้ไข
ในสิ่งที่อาจจะผิดพลาดพลั้งเผลอ เป็นต้น นอกจากนี้จะต้องชักชวนกันทำความดีหรือขวนขวาย ในการทำ
ความดีที่ยิ่งๆ ขึ้นไป ถ้ากระทำได้เช่นนี้ ได้ชื่อว่าเป็นกัลยาณมิตร
1.2.4 หากพิจารณาลักษณะกัลยาณมิตรโดยยึดหลักของความเป็นผู้สม่ำเสมอ หรือความเสมอต้น
เสมอปลาย ผู้ที่จะเป็นกัลยาณมิตรนั้น จะต้องมีพฤติกรรมที่ดีอย่างสม่ำเสมอ หรือมีความเสมอต้นเสมอปลาย
จนทำให้บุคคลทั้งหลายมีความมั่นใจว่า ผู้ที่มาเป็นกัลยาณมิตรให้นั้นน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ แม้กระทั่ง
สามารถปรึกษาเรื่องส่วนตัวและหวังได้ว่าจะได้รับคำแนะนำที่ตนไม่อาจจะแก้ไขด้วยตนเองได้ เช่น ปัญหา
สุขภาพ ปัญหาครอบครัว เป็นต้น
จากลักษณะที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนี้ แสดงถึงความเป็นกัลยาณมิตรว่ามิใช่เพียงความเป็นเพื่อน
หรือมิตรธรรมดา แต่เป็นมิตรหรือเพื่อนที่ดี แนะนำในสิ่งที่ดีงาม
และชักชวนกระทำแต่ในสิ่งที่มีประโยชน์
ไม่ผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม และในขณะเดียวกันการที่บุคคลจะมีกัลยาณมิตร หรือที่เรียกว่า
“กัลยาณมิตตตา” นั้น จะต้องเป็นผู้ที่รู้จักเลือกคบหามิตรที่แนะนำหรือชักชวนเพื่อนให้ทำ แต่สิ่งที่ดีงาม
ดังนั้นบุคคลใดที่ได้ชื่อว่ามีกัลยาณมิตรนั้น ย่อมจะมีชีวิตที่ประสบแต่ความเจริญ ดังความปรากฏ ใน
พระไตรปิฎกที่กล่าวถึงการจะเป็นผู้มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตนั้น จะต้องกระทำดังเรื่องราวต่อไปนี้
ครั้งเมื่อสมัยพุทธกาล ขณะที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ นิคมแห่งชาวโกฬิยะ
ชื่อ กักกรปัตตะ ใกล้เมืองโกฬิยะ ครั้งนั้นมีชายคนหนึ่งชื่อว่า ทีฆชาณุ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่
ประทับ ครั้นถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
บท ที่ 1 กั ล ย า ณ ม ต ร คือ อะไร
DOU 7