ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระปัญจวัคคีย์ยอมฟังธรรม เพราะจำได้ว่าคำพูดเช่นนี้พระองค์ไม่เคยพูดมาก่อนเลย และ
พระพุทธองค์ทรงมีคำพูดที่เชื่อถือได้มากที่สุด
ทรงทำให้ชายหนุ่ม 30 คนได้คิด
ในระหว่างเดินทางไปยังกรุงราชคฤห์ พระพุทธองค์ได้แวะพักใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ในบริเวณใกล้
เคียงกันนั้นมีชายหนุ่ม 30 คนชื่อพาคนรักมาเที่ยวหาความสำราญกัน แต่ชายหนุ่มคนหนึ่งไม่มีคนรัก จึง
พาเอาหญิงแพศยาคนหนึ่งมาเป็นคู่แทน ขณะที่กำลังเล่นเพลินกันอยู่นั้น หญิงแพศยาได้ลักเอาของมีค่า
ของเขาเหล่านั้นหลบหนีไป คนเหล่านั้นออกติดตามหาจนกระทั่งมาพบพระพุทธเจ้าประทับอยู่ใต้ต้นไม้ จึง
เข้าไปทูลถามว่า เห็นผู้หญิงคนหนึ่งหรือไม่
พระองค์ทรงถามว่า “มีอะไรจะต้องทำกับผู้หญิงหรือ
ชายหนุ่มเหล่านั้นเล่าเรื่องตั้งแต่แรกถวาย พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “ดูก่อนกุมารทั้งหลาย พวก
เธอจะมีความเห็นเป็นอย่างไร การที่พวกเธอแสวงหาหญิง กับการที่พวกเธอแสวงหาตนเองนั้น อย่างไหน
เป็นความดีสําหรับพวกเธอเล่า”
ชายหนุ่มเหล่านั้นต่างเห็นว่าแสวงหาตนดีกว่า จึงยอมรับฟังธรรมของพระพุทธองค์ แล้วได้บรรลุ
ธรรมในที่สุด 1
ทรงสะกดองคุลิมาลด้วยคำพูด
ในการปราบโจรร้ายองคุลิมาลนั้น นอกจากจะทรงใช้อิทธิปาฏิหาริย์ คือทรงกระทำให้องคุลิมาล
วิ่งไล่ไม่ทันแล้ว ยังทรงใช้วิธีอาเทสนาปาฏิหาริย์คือพูดดักใจอีกด้วย
เมื่อองคุลิมาลวิ่งไล่พระพุทธเจ้าจนเหนื่อยอ่อน แต่ไล่ไม่ทันสักทีนั้น เขาได้ตะโกนออกมาว่า
“หยุดก่อนสมณะ หยุดก่อน”
พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า “เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด” พระดำรัสนี้ ต้องการจะให้
องคุลิมาลเกิดความงุนงงซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดความสนใจต่อไป
“ท่านสมณะพูดมุสา ท่านเดินอยู่ ไฉนจึงว่าเราหยุดแล้ว”
พระพุทธองค์ทรงรักใจด้วยประโยคต่อไปว่า “เราหยุดทำบาปแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด” เท่านั้นเอง
แสงสว่างก็เกิดขึ้นในดวงใจขององคุลิมาล เขาหยุดวิ่ง โยนดาบทิ้งแล้วก็คุกเข่าลงแทบพระยุคลบาท เพื่อ
ฟังการสอนแบบอนุสาสนีปาฏิหาริย์ต่อไป
ทรงสอนพาหิยะอย่างย่อๆ
คราวหนึ่ง มีนักบวชนอกศาสนาคนหนึ่งชื่อพาหิยะมาจากเมืองสุปปารกะที่ริมฝั่งสมุทรอันเป็น
แดนไกลเขาได้มาพบพระพุทธเจ้า ขณะที่พระองค์กำลังทรงบิณฑบาต และขอให้พระองค์แสดงธรรมให้ฟัง
มหาขันธกะ, พระวินัยปิฎก มหาวรรค, มก.เล่ม 6 ข้อ 36 หน้า 84-86.
110 DOU บทที่ 7 พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กับ การ ทำ หน้าที่ กัลยาณมิตร