ข้อความต้นฉบับในหน้า
พูดถูกเวลา (กาล) คือรู้ว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนยังไม่ควรพูด ควรพูดนานเท่าไร ต้องคาดผล
ที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย
พูดถูกสถานที่ (เทศะ) คือรู้ว่าในสถานที่เช่นไร เหตุการณ์แวดล้อมเช่นไรจึงสมควรที่จะพูด
หากพูดออกไปแล้วจะมีผลดีหรือผลเสียอย่างไร เช่น มีความหวังดีอยากเตือนเพื่อนไม่ให้ดื่มเหล้า
แต่ไปเตือนขณะเพื่อนกำลังเมาอยู่ในหมู่เพื่อนฝูงทำให้เขาเสียหน้า อย่างนี้นอกจากเขาจะไม่ฟังแล้ว
เราเองอาจเจ็บตัวได้
สิ่งที่ควรพูด
คนฉลาดไม่ใช่เป็นแต่พูดเท่านั้น ต้องนิ่งเป็นด้วย คนที่พูดเป็นนั้น ต้องรู้ในสิ่งที่ไม่ควรพูดให้ยิ่งกว่า
5.5 ลักษณะของทูตที่ดี (ทูตสันติ)
สรุป
1. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ด่วนปฏิเสธ
2. เมื่อถึงคราวพูดก็สามารถทำให้ผู้อื่นฟัง
3. รู้จักกำหนดขอบเขตของการพูดให้กะทัดรัด
4. จำเนื้อความทั้งหมดที่จะพูด
5. เข้าใจเนื้อความทั้งหมดโดยละเอียดตามความเป็นจริง
6. ทำให้ผู้อื่นเข้าใจตามได้
7. ฉลาดในการพูดที่เป็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์
8. ไม่พูดชวนให้เกิดการทะเลาะวิวาท
การทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่สมบูรณ์แบบนั้น คือกัลยาณมิตรจะต้องเป็นผู้ทำได้จริง
ในสิ่งที่สอนคนอื่น หรือได้บรรลุผลสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมในระดับหนึ่งมาก่อน จึงสอนเรื่องดีๆ
แก่คนอื่น ถ้าตนเองทำไม่ได้สักอย่างแล้วไปสอนคนอื่น หาสมควรไม่ ดังพุทธพจน์ที่ว่า
“บุคคลพึงยังตนนั้นแลให้ตั้งอยู่ในคุณอันสมควรเสียก่อน จึงพร่ำสอนผู้อื่นในภายหลัง
บัณฑิตไม่พึงเศร้าหมอง หากว่า ภิกษุพึงทำตนเหมือนอย่างที่ตนพร่ำสอนคนอื่นไซร้ ภิกษุนั้นมีตนอันฝึกดี
แล้วหนอ จึงฝึก ได้ยินว่าตนแลฝึกได้ยาก ตนแลเป็นที่พึ่งของตน บุคคลอื่นไรเล่าพึงเป็นที่พึ่งได้ เพราะ
ว่าบุคคลมีตนฝึกฝนดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งอันได้โดยยาก”
หน้า 85-86.
พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ, มงคลชีวิต ฉบับทางก้าวหน้า, (กรุงเทพมหานคร : บริษัทฐานการพิมพ์ จำกัด, 2543),
* อัตตวรรค, ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 42 ข้อ 22 หน้า 186
บทที่ 5 การ ทำ หน้าที่ กัลยาณมิตร ต่อคนอื่น DOU 79