ธรรมโอสถสำหรับพราหมณ์ในยามป่วยหนัก DF 101 การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเบื้องต้น หน้า 141
หน้าที่ 141 / 142

สรุปเนื้อหา

เรื่องเล่าของพราหมณ์ที่ได้รับทุกขเวทนาและความเจ็บป่วยจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ยังต้องการฟังธรรมจากพระสารีบุตรเพื่อความสบายใจ เมื่อได้รับการสั่งสอนเกี่ยวกับการเกิดในพรหมโลก ความเชื่อมั่นของพราหมณ์กลับมาสดใสอีกครั้ง พระเถระได้แนะนำนำทางไปยังพรหมโลกด้วยคำสอนเกี่ยวกับความเมตตาและการตั้งใจฟังเพื่อฝึกจิตในช่วงสุดท้าย

หัวข้อประเด็น

-การเตรียมตัวก่อนตาย
-การฟังธรรมในยามป่วย
-ความเชื่อในพรหมโลก
-ความเมตตาและการดำรงชีวิต
-ประสบการณ์การฟังธรรมเพื่อการพัฒนาจิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หลังจากที่พราหมณ์กลับกลายมาเป็นผู้ไม่ประมาทอีกครั้งหนึ่งก็ได้ตั้งใจสั่งสมคุณงามความดีเรื่อยมา เมื่อวันเวลาล่วงเลยไปหลายปี ธนัญชานีพราหมณ์ จากที่เป็นพราหมณ์หนุ่มก็กลายมาเป็นพราหมณ์แก่ชรา และกำลังนอนอยู่บนเตียง เป็นที่พักครั้งสุดท้ายของคนไข้ที่กำลังป่วยหนัก ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส แต่ ก็ยังมีสติอยากจะฟังธรรมิกถาจากพระสารีบุตร เพื่อจิตของตนจะได้ผ่องใส มีสุคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า จึง สั่งคนรับใช้ให้ไปบอกพระเถระให้ทราบว่า บัดนี้ตนเองป่วยหนัก ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส ถ้าพระคุณเจ้า สะดวกขอให้มาโปรดหน่อยเถิด พระเถระรับการอาราธนาด้วยอาการดุษณีภาพ และเมื่อคนรับใช้นั้นกราบลากลับไปแล้ว ท่านก็ ห่มจีวรแล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านของท่านพราหมณ์ พอไปถึงก็นั่งบนอาสนะที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ ใกล้ๆ กับเตียง นอนของพราหณ์ ที่กำลังป่วยหนัก พระเถระได้ถามถึงอาการเจ็บป่วยของพราหมณ์ว่า “ท่านพราหมณ์ ท่าน ยังพอทนได้ไหม พอจะยังอัตภาพให้เป็นไปได้หรือ ทุกขเวทนาของท่านทุเลาลงบ้างไหม อาการเจ็บป่วย ของท่านปรากฏค่อยคลายไปไม่ทวีขึ้นมิใช่หรือ” ธนัญชานิพราหมณ์ตื้นตันใจ ประนมมือไหว้พระธรรมเสนาบดี กล่าวกับท่านด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า “พระคุณเจ้าผู้เปี่ยมด้วยมหากรุณาได้มาเยือนกระผมในยามนี้ ทุกขเวทนาแสนสาหัสปรากฏอยู่ในร่างกาย ของกระผม ลมชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอยู่ในท้องมันมีฤทธิ์เหลือประมาณ นอกจากนี้ยังมีอาการเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย กระผมแทบจะทนไม่ไหว คงจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน อายุขัยของผมจะถึงที่สุดแล้ว เพราะทุกขเวทนาแรงกล้านัก อาการนี้ได้หนักทวีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ถอยเลย ขอรับกระผม” พราหมณ์กราบเรียนอาการเจ็บป่วยให้ทราบแล้ว ก็นอนนิ่งเฉยน้ำตาคลอ อยู่ด้วยอาการแห่งคนที่รู้ตัวว่าตนจักต้องตาย พระเถระได้มองดูพราหมณ์ด้วยสายตาอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความกรุณา ท่านทราบว่าธนัญชานี พราหมณ์ผู้ได้สั่งสมคุณงามความดีไว้มาก บัดนี้ มรณภัยได้มาปรากฏอยู่เบื้องหน้า ในยามนี้สิ่งที่มีค่ามาก ที่สุดคือธรรมโอสถเท่านั้น อันจะเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ฉะนั้นท่านจึงได้แสดงธรรมิกถาว่าด้วยความ ประเสริฐกว่ากันของภพภูมิชั้นต่างๆ ตั้งแต่นรกกับกำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน ไล่เรื่อยมาตามลำดับ กระทั่งถึง ความประเสริฐประณีตกว่ากันของสวรรค์ในแต่ละชั้น พราหมณ์ปล่อยใจตามไปเรื่อยๆ มีความรู้สึกว่า ตนเองจะได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นนั้นๆ เมื่อพระสารีบุตรกล่าวถึงพรหมโลกซึ่งประเสริฐว่าสวรรค์ทุกชั้นพราหมณ์ครั้นได้ฟังคำว่าพรหมโลก เท่านั้นแหละ ดวงตาก็เปล่งประกายสุกใส ยิ้มแย้มสดชื่นด้วยความปีติยินดีเป็นยิ่งนัก เพราะพราหมณ์มี ความศรัทธาเลื่อมใสในพระพรหมมาก มีความปรารถนาจะไปบังเกิดในพรหมโลกอยู่แล้ว เมื่อพระเถระ แสดงธรรมถึงพรหมโลก เห็นพราหมณ์มีใจเบิกบานมากขึ้น จึงมีความดำริ ที่จะแสดงปฏิปทาทางไปพรหม โลกแก่พราหมณ์ จึงกล่าวเตือนสติพราหมณ์ว่า “ท่านพราหมณ์ อาตมาจะแสดงปฏิปทาทางไปสู่พรหมโลกเพื่อความเป็นสหายกับเหล่าพรหมให้ฟัง ขอท่านจงตั้งใจเงี่ยโสตสดับเถิด ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีใจประกอบด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา แผ่ไปสู่ทิศเบื้องหน้า ทิศเบื้องหลัง ทิศเบื้องซ้าย ทิศเบื้องขวา ทั้งในทิศเบื้องบน เบื้องล่าง และเบื้องขวาง 132 DOU บ ท ที่ 8 ประสบการณ์ การทำ หน้าที่ กัลยาณมิตร
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More