ข้อความต้นฉบับในหน้า
“ดูก่อนอานนท์ ! เธออย่าได้กล่าวอย่างนั้น ก็ความเป็นกัลยาณมิตรนี้ เป็นทั้งหมดของพรหม
จรรย์ ดูก่อนอานนท์ ! ภิกษุผู้มีกัลยาณมิตร จักเจริญในอริยมรรคประกอบด้วยองค์ 8”
การมีกัลยาณมิตรนั้น เป็นทั้งหมดของการดำเนินชีวิตอันประเสริฐ พระผู้มีพระภาคเจ้าในอดีตชาติ
ที่ท่านเกิดเป็นมาณพชื่อ โชติปาละ ท่านก็เคยมีความเห็นผิดในพระรัตนตรัย แต่เพราะได้เพื่อนคือ ฆฏิการะ
เป็นกัลยาณมิตร ชักชวนให้มาพบพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับรสแห่งอมตธรรม กลับมีความเห็นที่ถูกต้อง
ชีวิตของท่านจึงเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นชีวิตที่ทุ่มเทสร้างบารมีอย่างจริงจัง จนกระทั่งในที่สุด
ภพชาติสุดท้ายก็ได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังเรื่องต่อไปนี้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งสมัยที่ยังอยู่ในระหว่างการสร้างบารมี” พระองค์ได้เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ
“โชติปาละ” ท่านมีเพื่อนเป็นช่างปั้นหม้อ ชื่อว่า “ฆฏิการะ” แม้จะเกิดมามีฐานะทางสังคมที่แตกต่างกัน
แต่ทั้งสองก็เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเติบโตขึ้นฆฏิการะได้ไปฟังธรรมจากพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า
เกิดความเลื่อมใส จึงได้อุทิศตนเป็นอุบาสก ยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เมื่อตัวเองได้พบเส้นทางสว่าง
พบบุคคลผู้ประเสริฐอย่างพระบรมศาสดา ก็อยากจะชวนโชติปาละเพื่อนรัก ให้มาฟังธรรมจากพระพุทธองค์
ฆฏิการะพยายามเกลี้ยกล่อม ชักชวนให้เพื่อนไปเฝ้าพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ก็ไม่ยอมไป จึงบอกกับโชติปาละว่า “เพื่อนเอ๋ย การได้พบกับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง เราไปฟังธรรมจากพระองค์กันเถอะ” เนื่องจากว่า
โชติปาละเกิดในตระกูลพราหมณ์ ไม่ได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงตอบว่า “อย่าเลยเพื่อน
ฆฏิการะ การไปเฝ้าพระสมณะโล้น จะมีประโยชน์อะไร ท่านไปคนเดียวเถอะ”
ถึงแม้ว่า ฆฏิการะจะชวนหลายครั้ง และชี้ให้เห็นว่าการเห็นพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งประเสริฐ การ
ฟังธรรมจากพระพุทธองค์เป็นมงคล แต่ดูเหมือนว่าการชักชวนนั้นไม่ได้ผลเลย วันหนึ่งจึงหากุศโลบาย
ชวนเพื่อนไปอาบน้ำที่แม่น้ำใกล้กับที่ประทับของพระบรมศาสดา หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ฆฏิการะ
จึงชวนอีกครั้งว่า วิหารที่ประทับของพระพุทธเจ้าอยู่ใกล้ๆ บริเวณนี้นี่เอง เราไปเดินเล่นในวิหารกันเถอะ
โชติปาละก็ไม่ยอมไป จะขอกลับบ้านอย่างเดียว แม้จะถูกชักชวนอย่างไร ก็ไม่คล้อยตาม
จนสุดท้าย ฆฏิการะเมื่อเห็นว่าชวนอย่างไรก็ไม่ไปแล้ว ด้วยความจริงใจต่อเพื่อน จึงฉุดมวยผม
ของโชติปาละ เพื่อที่จะให้ไปเฝ้าพระพุทธองค์ให้ได้ โชติปาละเป็นผู้สั่งสมบุญมาดี เมื่อโดนเพื่อนดึงมวยผม
จึงคิดว่า “น่าอัศจรรย์จริงหนอ ฆฏิการะผู้เป็นเพียงช่างปั้นหม้อ ผู้มีชาติต่ำ กล้ามาดึงมวยผมเราผู้เป็นเผ่า
พันธุ์ของพระพรหม ตามปกติเพื่อนของเราไม่เคยทำอย่างนี้ มีความปรารถนาดีต่อเรามาตลอด ไม่เคยชักชวน
ไปในทางที่ผิดเลย การไปพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คงจะเป็นการดีเป็นแน่”
ทุติยอัปปมาทสูตร, สังยุตตนิกาย สคาถวรรค, มก. เล่ม 24 ข้อ 382 หน้า 482.
* ฆฏิการสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 21 ข้อ 405-413 หน้า 2-7.
บ บทที่ 2 ค ว า ม สำ คั ญ ข อ ง กัลยาณมิตร DOU 19