โอกาสในการเกิดเป็นมนุษย์และการสร้างบารมี DF 101 การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเบื้องต้น หน้า 79
หน้าที่ 79 / 142

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความยากลำบากในการเกิดเป็นมนุษย์ โดยใช้ตัวอย่างของเต่าตาบอดที่โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำเพียงร้อยปีและความยากในการให้หัวเข้าห่วง อธิบายสถานการณ์สำคัญที่พระโพธิสัตว์ต้องเผชิญก่อนตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ่านเรื่องเล่าของพญานาคราชที่แสวงหาการสร้างบารมีและรักษาศีลในขณะที่ยังมีอันตรายจากนอกโลกอยู่เสมอ อธิบายถึงความสำคัญของการฟังคำสอนจากสัตบุรุษในชีวิตและการรักษาศีลเพื่อให้ได้โอกาสเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง

หัวข้อประเด็น

-โอกาสในการเกิดเป็นมนุษย์
-การสร้างบารมี
-พญานาคราชในจัมเปยยชาดก
-ความสำคัญของศีลธรรม
-ภัยรอบตัวในชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สุดจะประมาณ มีเต่าตาบอดทั้งสองข้างอยู่ตัวหนึ่ง ทุกๆ หนึ่งร้อยปี จะโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ 1 ครั้ง และในท้อง ทะเลนี้มีห่วงที่พอดีกับหัวเต่าลอยอยู่อันหนึ่ง โอกาสที่เต่าตาบอดจะโผล่หัวขึ้นมา แล้วเอาหัวสอดเข้าไป ในห่วงพอดี มีความยากเพียงใด โอกาสที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น มีความยากยิ่งกว่า เมื่อเกิดมาแล้วการที่จะรักษาชีวิตให้ดำเนินอยู่บนเส้นทางของการสร้างความดีไปได้ ตลอดรอดฝั่งก็ทำได้ยาก เพราะภัยอันตรายต่างๆ ที่เกิดกับชีวิตของเรามีอยู่รอบตัว และการที่จะได้มีโอกาส ฟังธรรมของสัตบุรุษเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ในโบราณกาลผู้คนต่างแสวงหาความรู้อันแท้จริง และปรารถนาที่จะ สนทนากับนักปราชญ์บัณฑิต เพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตให้ถูกต้องตามคำสอนอันประเสริฐ พระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ กว่าจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ต้องสร้างบารมี กันยาวนานหลายอสงไขยกัป ท่านสร้างบารมีทุกรูปแบบ แม้บางชาติจะพลัดไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน แต่ท่านก็ยังคงสร้างบารมี เพื่อมุ่งหวังพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ การอุบัติขึ้นของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ จึงเป็นการยากอย่างนี้ เรื่องราวในจัมเปยยชาดก ราวว่า ในอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งหนึ่งได้ไปเกิดเป็นพญานาคราช มีร่างกายใหญ่โต อายุยืนมากอุดมไปด้วยสมบัติทั้งหลายและพรั่งพร้อมไปด้วยบริวารพระองค์ทรงเบื่อหน่ายในราชสมบัติ เพราะ ดำริว่า แม้เราจะมีสมบัติ และบริบูรณ์ด้วยความสุขนานัปการ แต่ก็ยังคงเป็นเพียงสัตว์เดียรัจฉาน โอกาสที่จะ สร้างบุญบารมีได้เต็มที่นั้น ยากยิ่งนัก เมื่อดำริอย่างนี้แล้วจึงตั้งใจ รักษาศีล เพื่อว่าเมื่อพ้นจากอัตภาพ ของพญานาคแล้ว จะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก แล้วทรงออกจาก นาคพิภพไปพำนักอยู่ในที่สงบ ตั้งใจ รักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ บรรดานางนาค กัญญาทั้งหลาย ต่างเกรงว่า พระองค์จะจากพวกนางไป จึง ประดับประดาด้วยของหอม แล้วมาเย้ายวนพระองค์ เพื่อให้ศีลของพระองค์วิบัติ พระองค์ดำริว่าหากเป็นเช่นนี้ โอกาสที่ศีลของเราจะบริสุทธิ์บริบูรณ์นั้น เป็นไปได้ยาก จึงขึ้นมาเมืองมนุษย์ ขดร่างกายอยู่ที่จอมปลวกริมฝั่งแม่น้ำ คนทั้งหลายผ่านมาต่างพากันบูชาด้วยของหอม และเครื่องสักการะมากมาย ทุก 1 เดือน นาคราชจะกลับลงไปเมืองบาดาลหนึ่งครั้ง นางสุมนาเทวีอัครมเหสีเป็นห่วงพญานาคราชจึงกล่าวว่า “เมื่อพระองค์ขึ้นไปบนเมืองมนุษย์ เป็นเวลานาน หากพระองค์มีอันตราย ข้าพระองค์จะทราบได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์” พญานาค จึงพานางไปดูที่สระน้ำ แล้วบอกว่า “วันใด ที่สระน้ำขุ่นมัว ให้รู้ว่าเรากำลังจะโดนประหาร ถ้าพญาครุฑ จับไป น้ำจะเดือดพลุ่งขึ้นมา ถ้าหมองูจับไป น้ำจะมีลักษณะสีแดงเหมือนโลหิต” เมื่อพญานาคราชบอกลักษณะ ของการเกิดภัยแล้ว จึงกลับขึ้นไปเมืองมนุษย์อีก ในระหว่างที่รักษาศีลอยู่นั้น วันหนึ่งมีหมองูผ่านมา เห็นนาคราชขดอยู่ที่จอมปลวก ก็คิดจะ จับไปแสดงให้ชาวเมืองดู เพื่อหาทรัพย์มาดำรงชีวิต คิดดังนั้นแล้ว จึงหยิบโอสถมาร่ายมนตร์ เมื่อนาคราช ถูกมนต์ ร่างกายก็เร่าร้อนเหมือนโดนถ่านเพลิง ศีรษะปวดร้าวเหมือนโดนบีบ ดำริว่าเกิดเหตุอะไร จึงยก จัมเปยยชาดก, อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, มก. เล่ม 61 หน้า 195-219. 70 DOU บทที่ 5 การทำหน้าที่ กัลยาณมิตร ต่อคน อื่น
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More