เจ้าของทรัพย์ที่แท้จริง DF 101 การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเบื้องต้น หน้า 96
หน้าที่ 96 / 142

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อท่านเศรษฐีขอให้ขนทรัพย์เข้ามาเก็บไว้ที่ท้องพระคลัง แต่พระราชาปฏิเสธและอนุญาตให้บริจาคแก่คนยากจน หลังจากนั้นผู้คนในบ้านเศรษฐีก็เห็นว่าเศรษฐีได้เปลี่ยนใจและให้เงินทองแก่คนจน เรื่องราวจบลงด้วยความเข้าใจและการยอมรับในคุณค่าของการให้ทานและสังคมที่ดี.

หัวข้อประเด็น

-การให้ทาน
-เศรษฐี
-คนยากจน
-พระราชา
-การบริจาค

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ได้โปรดให้ขนทรัพย์เข้ามาเก็บงำไว้ในท้องพระคลังด้วยเถิด พระเจ้าข้า” แต่พระราชาทรงปฏิเสธและอนุญาตให้เอาไปบริจาคทานแก่คนยากจนได้ เมื่อได้รับพระ บรมราชานุญาตแล้ว ท่านก็ถวายบังคมลา รีบออกเดินทางไปบ้านอิลลีสเศรษฐี พวกคนรับใช้และ บริวารเห็นเศรษฐีกลับมา พากันห้อมล้อม โดยไม่มีใครสังเกตว่า ท่านผู้นี้ไม่ใช่อิสลีสเศรษฐี แต่คืออดีตเจ้าของ ทรัพย์ที่แท้จริง ท้าวสักกะบอกทุกคนในบ้านว่า บริจาคทานเถิด” “เราเป็นคนตระหนี่มาช้านาน วันนี้เรารู้แล้วว่า การให้ทานเป็นสิ่งที่ดี ขอให้ทุกคนช่วยกัน บุตร ธิดา และภรรยา รวมทั้งข้าทาสกรรมกร ได้ยินถ้อยคำอันเป็นมงคลเช่นนั้น ต่างอนุโมทนาในกุศลจิตศรัทธาของท่านเศรษฐี และบอกให้คนตีกลองร้องป่าวประกาศว่าใครอยากได้เงินทอง แก้วมณี แก้วมุกดา หรือข้าวปลาอาหาร ก็ให้มารับที่บ้านของอิลลีสเศรษฐี คนยากจนทั้งหลายได้ยินข่าวแล้ว ต่างพากันถือถุงกระสอบ ไปยืนชุมนุมกันที่ประตูบ้าน ท้าวสักกะทรงให้เปิดห้องที่เต็มไปด้วยรัตนะ 7 และ ให้มหาชนช่วยกันขนไป ตามแต่จะขนไปได้ ชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่า ตนไม่มีโคเทียมเกวียน ท่านเศรษฐีจำแลง จึงมอบโคคู่ให้พร้อมกับ เกวียนคันงาม บรรทุกรัตนะ 7 จนเต็มเกวียน เมื่อได้แล้ว ก็ขับออกไปนอกเมืองเพื่อเดินทางกลับบ้าน ขณะ ขับไปก็พรรณนาคุณของท่านเศรษฐีไม่ขาดปาก ฝ่ายอิลลีสเศรษฐีกำลังนั่งดื่มเหล้าด้วยความมึนเมา เมื่อได้ยินเสียงนั้น ก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า หนุ่มบ้านนอกคนนี้ เอาชื่อของเรามากล่าวอ้าง จึงรีบโผล่ออกจากพุ่มไม้ ร้องตวาดเสียงดังว่า “เจ้าคนบ้านนอก นั่นโคของข้า รถก็ของข้า เจ้าเอามาได้อย่างไร” พลางรีบวิ่งไปจับ สายตะพายของโคไว้ทันที ขับต่อไป หนุ่มบ้านนอกลงจากรถ และตะคอกเศรษฐีว่า “เจ้าหน้าปีศาจ ท่านเศรษฐีให้ทานแก่คนทั้งเมือง เจ้าอย่ามากล่าวเช่นนี้” ด้วยความไม่พอใจ จึงทุบต้นคอเศรษฐีอย่างแรง ราวกับสายฟ้าฟาด จากนั้นก็ดึงรถมา และ ท่านอิลลีสเศรษฐีตัวสั่นงันงก รีบปัดฝุ่นและวิ่งไปยึดรถไว้อีก หนุ่มบ้านนอกก็ลงจากรถ ลงมือทุบตีเศรษฐีอย่างแรง จับคอเหวี่ยงไปมา และขับเกวียนต่อไป โดนเข้าเช่นนี้ ท่านเศรษฐีหายเมา เป็นปลิดทิ้ง รีบเดินกลับเข้าเมืองทันที ครั้นเดินไปถึงหน้าบ้านของตน เห็นมหาชนพากันขนทรัพย์ไป จึง ตะโกนบอกให้เอาทรัพย์ของตนคืนมา แต่ก็ไม่มีใครสนใจแต่อย่างใด เศรษฐีเห็นว่า มีแต่พระราชาเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งได้ จึงไปเข้าเฝ้าพระราชา พลางกราบทูล ความจริงทุกอย่าง พระราชาจึงรับสั่งให้เรียกท่านเศรษฐีจำแลงมา เมื่อทรงพิจารณาดู ก็ไม่สามารถ เห็นความแตกต่างของคนทั้งสอง จึงรับสั่งให้บุตรและภรรยามาชี้ว่า คนไหนตัวจริง คนไหนตัวปลอม ฝ่ายบุตรและภรรยา รวมไปถึงข้าทาสบริวาร ต่างชี้ไปที่ท้าวสักกะว่า เป็นท่านอิลลีสเศรษฐีตัวจริง ท่านเศรษฐียังไม่ยอมอับจน คิดได้ว่า ที่ศีรษะของตนมีปุ่มน่ารังเกียจ ซึ่งเส้นผมปิดไว้มิดชิด มีแต่ช่างกัลบกคนเดียวเท่านั้นที่รู้ จึงบอกให้ช่างกัลบกมาชี้ตัว พระราชาตรัสถามว่า บทที่ 6 ก า ร ป ลู ก ฝั ง อุ ด ม ก า ร ณ์เพื่อความเป็นกัลยาณมิตร DOU 87
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More