ข้อความต้นฉบับในหน้า
ย่อมต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยคุ้มครองมิตร” จากนั้นพญาราชสีห์ก็วิ่งไปหาพวกนายพราน นายพราน
เหล่านั้นเห็นราชสีห์วิ่งตรงเข้ามาหา เกิดความกลัวตาย รีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต ทำให้ลูกน้อยของพญาเหยี่ยว
ได้รับความปลอดภัย พญาเหยี่ยวมีใจร่าเริงยินดีและขอบคุณมิตรสหายทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นกัลยาณมิตรจึงมีความสำคัญต่อชีวิตของเราทุกคน เมื่อมีมิตรแล้วก็ให้ผูกมิตรเอาไว้ให้ดี
อย่าด่วนทำลายมิตรภาพของกันและกัน ต้องรู้จักถนอมน้ำใจกัน รักษาสัมพันธไมตรีไว้อย่าให้เสื่อมคลาย
แม้บางครั้งอาจจะมีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น ให้ปรับเข้าหากัน ประนีประนอม อะลุ่มอล่วยกัน อย่าได้
ถือสาหาความ เพราะเรื่องอื่นเป็นเรื่องเล็กแต่มิตรภาพเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสำคัญกว่า
มิตรแท้ที่สำคัญที่สุดที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้ ก็คือกัลยาณมิตรที่อยู่ภายในตัวของเรา หมายถึง
พระรัตนตรัยภายในนั่นเอง ท่านเป็นมิตรที่ยิ่งกว่ามิตรทั้งหลาย มีแต่ความปรารถนาดีล้วนๆ ความบริสุทธิ์
ล้วนๆ ท่านสามารถช่วยให้เราพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เวลาเรามีทุกข์สามารถพึ่งท่านได้ตลอดเวลา เพราะท่าน
จะช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้ชีวิตของเรามีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป
8.2 กัลยาณมิตรของพระยามิลินท์
มีเรื่องเล่าว่า พระยามิลินท์ จอมราชาแห่งสาคลราชธานี ท่านเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ทางด้าน
ภูมิปัญญา เที่ยวถามปัญหากับผู้รู้ทั้งในที่ใกล้ และที่ไกล แม้แต่ในเมืองของพระองค์เอง ก็ไม่มีใครสามารถ
ตอบโต้วาทะของพระองค์ได้ เป็นเหตุให้ในเมืองนั้นว่างจากสมณพราหมณ์ผู้รู้ถึง 12 ปี จนกระทั่งพระอรหันต์
องค์หนึ่งชื่อว่า อัสสคุตตเถระท่านเห็นเหตุที่จะทำให้พระศาสนาเสื่อมโทรม เพราะการกระทำของพระยามิลินท์
จึงให้ประชุมสงฆ์ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น จำนวนมากถึง 100 โกฏิ แล้วเอ่ยถามท่ามกลางที่ประชุมว่า
ใครสามารถตอบโต้วาทะกับพระยามิลินท์หรือว่าสามารถทำให้พระยามิลินท์เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้บ้าง
พระอัสสคุตตเถระเอ่ยถามถึง 3 ครั้ง พระอรหันต์ทั้งหลายพากันนิ่ง ไม่มีองค์ใดรับวาจา จึงปรึกษากัน และ
ลงความเห็นว่าให้ไปอัญเชิญมหาเสนเทพบุตร ซึ่งมีบุญเก่าที่เคยร่วมสร้างกันมากับพระยามิลินท์ เทพบุตร
องค์นั้นมีสติปัญญาสามารถแก้ปัญหาของพระยามิลินท์ กอบกู้พระศาสนาไว้ได้
เมื่อลงความเห็นกันแล้ว พระอรหันต์จำนวนถึง 100 โกฏิ จึงพากันขึ้นไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ท้าวสักกะเห็นพระอรหันต์มาเป็นจำนวนมาก จึงเข้าไปถามว่า “พระผู้เป็นเจ้าพากันมามากมายมหาศาล
อย่างนี้มีจุดประสงค์อะไรบอกโยมหน่อยเถิด” พระเถรเจ้าจึงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระยามิลินท์ให้ท้าวสักกะฟัง
และประสงค์จะกอบกู้พระศาสนา ท้าวสักกะจึงบอกว่า เห็นทีจะมีแต่มหาเสนเทพบุตรผู้เดียวเท่านั้น
จึงอาราธนาคณะสงฆ์ไปหาเทพบุตรถึงวิมานบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง
ครั้งแรกที่ได้รับรู้ มหาเสนเทพบุตรปฏิเสธถึง 3 ครั้ง เนื่องจากยังไม่รู้ถึงหน้าที่ของตัวเอง เมื่อ
มิอาจจะเลี่ยงได้จึงกล่าวขึ้นว่า หากลงไปเกิดขอให้มีปัญญาสามารถแก้ปัญหาทุกๆ อย่างได้ และให้พระยา
มิลินท์สิ้นความสงสัยได้ เหล่าพระอรหันต์ท่านรับรองว่าจะเป็นอย่างนั้น เทพบุตรจึงรับปากพระอรหันต์
พอรู้ว่าเทพบุตรผู้มีบุญรับปากแล้ว จึงอันตรธานจากเทวโลกลงมาประชุมกันต่อ เพื่อคัดสรรผู้ที่จะ
รับหน้าที่ประคับประคอง เป็นกัลยาณมิตรให้เทพบุตรออกบวช จนบรรลุวัตถุประสงค์ของการลงมาเกิด
124 DOU บทที่ 8 ประสบ การณ์ การทำหน้าที่ กัลยาณมิตร