ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในลำคอของพ่อ เพื่อดื่มกินได้อย่างไม่สะทกสะท้าน นี่คือ บุคคลอันตราย จึงไม่รับเข้าร่วมอุดมการณ์อาชีพ
โจร
แม้นายเคราแดงถูกหัวหน้าโจรปฏิเสธ ก็ไม่ยอมละความพยายาม เพราะอยากประกอบอาชีพโจร
จึงหาวิธีที่จะเป็นโจรให้ได้ ด้วยการคอยอุปัฏฐากบำรุงศิษย์คนหนึ่งของหัวหน้าโจร จนได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ
ลูกศิษย์โจรจึงพาไปหาหัวหน้า เพื่ออ้อนวอนให้รับเป็นสมาชิกด้วย เพราะในทีมมีเพียง 499 คนเท่านั้น ท่าน
หัวหน้าหากรับเอาไว้อีกหนึ่ง ก็จะกลายเป็นโจร 500 การจี้ปล้นทรัพย์ก็จะสำเร็จได้ง่ายขึ้น หัวหน้าโจร
ทนคำรบเร้าไม่ไหว จึงจำใจต้องรับเอาไว้เป็นสมาชิกด้วย
เมื่อรับนายเคราแดงเป็นสมาชิกได้เพียงไม่กี่วัน ยังไม่ทันจะได้ออกปล้น โจรทั้ง 500 คน ก็ถูก
ชาวเมืองร่วมกับพวกราชบุรุษจับได้ ตุลาการสั่งตัดคอโจรทั้ง 500 คนทันที เพราะถือว่าเป็นภัยต่อราช
สำนักและชาวประชา แต่หาคนที่กล้าตัดคอโจรทั้ง 500 คนไม่ได้ ตุลาการจึงต่อรองกับหัวหน้าโจรว่า
“ให้เจ้าตัดคอลูกน้องทั้งหมดให้ตาย แล้วเจ้าจะรอดชีวิต”
แต่หัวหน้าโจรไม่ปรารถนาจะฆ่าลูกน้อง เพราะว่าลูกน้องทั้งหมดเป็นที่รักของตน แม้จะเป็นจอม
โจร แต่ก็ยึดมั่นในอุดมการณ์ของมหาโจร คือไม่ทำร้ายลูกน้องและพวกกันเอง จึงตอบปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยว
พวกชาวเมืองจึงถามโจร 499 คนว่า ถ้าคนไหนกล้าตัดคอพวกพ้องตัวเองให้ตายหมด คนนั้นจะรอดชีวิต ถึง
กระนั้นโจรทั้งหมดก็ไม่ปรารถนาจะฆ่าพวกกันเอง ทุกคนยอมตาย แต่ไม่ยอมฆ่าเพื่อน
ครั้นชาวเมืองถามนายตัมพทาฐิกะ ผู้มีตาเหลือกเหลือง มีเคราสีแดง ซึ่งเป็นคนสุดท้ายว่า
สามารถฆ่าพวกตัวเองได้หรือไม่ นายตัมพทาฐิกะตอบตกลงทันที ใช้ขวานที่คมกริบ ตัดคอโจรทั้งหมด
ภายในไม่กี่นาที โดยไม่มีความสะทกสะท้านแม้แต่น้อย ทำให้ตัวเองรอดตายมาได้ อีกทั้งได้ความนับถือจาก
ชาวเมืองด้วยการแต่งตั้งให้เป็นเพชฌฆาตเคราแดงทำหน้าที่ตัดคอโจรที่ตุลาการได้พิพากษาคดีเรียบร้อยแล้ว
ตั้งแต่นั้นมา เขาจึงเปลี่ยนฉายาจากโจรเคราแดงมาเป็นเพชฌฆาตเคราแดง คอยฆ่านักโทษ
ประหารทีละ 1 คนบ้าง 10 คนบ้าง 500 คนบ้าง เขาฆ่านักโทษประหารรวมแล้วประมาณ 2,000 คน แต่
เมื่อแก่ตัวลง เรี่ยวแรงเริ่มถดถอย จากที่สามารถตัดศีรษะด้วยการฟันทีเดียวได้ ต้องทุ่มเทเรี่ยวแรงที่มีอยู่
ฟัน 2-3 ที ทำให้นักโทษประหารได้รับความเจ็บปวด เป็นการทรมานนักโทษมากเกินไป พวกชาวเมืองจึง
ได้ถอดเขาออกจากตำแหน่งเพชฌฆาต แล้วหาคนใหม่มาทำหน้าที่แทน
เมื่อนายตัมพทาฐิกะถูกถอดจากการเป็นเพชฌฆาตแล้ว ก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน เนื่องจากช่วงที่
อยู่ในหน้าที่นั้น เขาไม่เคยได้นุ่งผ้าใหม่ ไม่ได้ดื่มยาคูเจือน้ำนมที่ปรุงด้วยเนยใสใหม่ ไม่ได้ประดับดอกมะลิ
และไล้ทาด้วยของหอมเลย เพราะฉะนั้นพอถูกถอดจากตำแหน่ง ตั้งใจว่าจะดื่มยาคูเจือน้ำนม จึงสั่งให้คน
นำผ้าใหม่มาให้ ให้คนในบ้านช่วยเตรียมดอกมะลิและเครื่องทาไว้ให้พร้อม จากนั้นก็ไปอาบน้ำที่แม่น้ำ แล้ว
นุ่งผ้าใหม่ ประดับดอกไม้ ทาตัวด้วยของหอม นั่งพักผ่อนอย่างมีความสุข เตรียมพร้อมที่จะดื่มยาคูเจือ
น้ำนมที่ปรุงด้วยเนยใสใหม่
ในขณะนั้น พระสารีบุตรออกจากนิโรธสมาบัติ พิจารณาว่า “วันนี้เราควรจะไปโปรดใครหนอ”
ได้เห็นเพชฌฆาตเคราแดงเข้ามาในข่ายญาณทัสสนะ จึงไปปรากฏยืนอยู่หน้าบ้านของเขา เมื่อนาย
บทที่ 8 ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ การทำ หน้าที่ กัลยาณมิตร DOU 121