หญิงชราผู้สอนตนให้พ้นชาติ ชรา มรณะ DF 101 การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเบื้องต้น หน้า 71
หน้าที่ 71 / 142

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอความสำคัญของความเพียรในการพัฒนาตนเองและการทำความดี เพื่อที่จะสร้างชีวิตที่มีความหมายและเข้าถึงพระนิพพาน โดยใช้ตัวอย่างจากชีวิตของนางพหุปุตติกาเถรี ผู้ซึ่งเสียสละเพื่อบุตรและมีความเพียรในการทำความดี แม้จะต้องเผชิญกับความทุกข์ แต่จุดหมายคือการพ้นจากทุกข์และการมีชีวิตที่มีความหมายในการทำดีนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่ฝึกฝนตนให้บริสุทธิ์

หัวข้อประเด็น

-ความเพียรในการพัฒนาตนเอง
-การสร้างชีวิตที่มีคุณค่า
-บทเรียนจากนางพหุปุตติกาเถรี
-การใช้เวลาฝึกฝนใจ
-การเผชิญกับความทุกข์ในชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

4.2.3 หญิงชราผู้สอนตนให้พ้นชาติ ชรา มรณะ ความเพียรใดเป็นไปเพื่อพระนิพพาน ความเพียรนั้นเป็นยอดของความเพียร เพราะเป็นสิ่งประเสริฐ ที่นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลาย ต่างก็สรรเสริญ ผู้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดี ต้องให้ความสำคัญกับการทำ ความเพียรเป็นชีวิตจิตใจ เป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจก็ว่าได้ จะปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสโลกนั้นไม่ได้ ต้องให้ชาวโลกเอาเราเป็นเยี่ยงอย่าง คิดที่จะฝึกฝนตนเองทุกรูปแบบ เหมือนการเดินทางไกล ในขณะที่คนอื่น กำลังหลับใหล เราจะตื่นขึ้นจากความหลับ ในขณะที่เขาลุก เราจงเดินก้าวต่อไป เมื่อมีผู้ก้าวตามมา พวกเรา ก็ถึงจุดหมายเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้ถึงจะเรียกว่า เป็นผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตรผู้จะนำความสว่างไสวมาให้ แก่โลก ส่วนความเพียรในการประกอบอาชีพ ทำธุรกิจการงาน หรือการศึกษาเล่าเรียนนั้น เป็นเพียง การช่วยเหลือตัวเอง ให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสะดวกสบายเท่านั้น เป็นภารกิจที่ยังติดข้องอยู่ใน เบญจกามคุณ ยังเกี่ยวข้องอยู่กับรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ บางครั้งเนื่องจากว่า บางท่านยังมี สติปัญญาไม่สมบูรณ์ ความเพียรพยายามที่ทุ่มเทให้กับสิ่งที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร กลับนำความทุกข์ระทมมาให้ ตัวเอง แต่การมุ่งขจัดกิเลสอาสวะออกจากใจ ด้วยการหมั่นฝึกฝนใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์หยุดนิ่งนั้น เราจะ ไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะเราไม่ได้หวังผิด เพียงแต่บางครั้งจำเป็นต้องใช้เวลา และให้โอกาสกับใจของเรา เพราะ ใจดวงนี้เคยฟุ้งซ่าน ล่องลอยไปในเรื่องภายนอกมาเป็นเวลายาวนาน ถึงคราวจะฝึกให้หยุดนิ่ง จึงต้องค่อยเป็น ค่อยไป เหมือนการโผล่พ้นจากขอบฟ้าของดวงอาทิตย์ในยามเช้า เราจะไปบังคับให้รีบขึ้นหรือขึ้นช้าๆ ก็ไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีความพอดีอยู่ในตัวของมันเอง เพราะฉะนั้นผลแห่งการทำความเพียรเพื่อเผาผลาญ อาสวกิเลส จะมีสุขเป็นอานิสงส์เสมอ แม้พระบรมศาสดาก็ทรงสรรเสริญ ว่าเป็นผู้มีชีวิตไม่ว่างเปล่าจาก ความดี เหมือนนางพหุปุตติกาเถรี ผู้ไม่ประมาทในชีวิต เร่งรีบทำความเพียร จนได้บรรลุธรรมเป็น พระอรหันต์ ดังเรื่องที่ได้เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลความว่า พระเถรีท่านนี้ เคยเป็นเศรษฐีนีมาก่อน มีลูกชาย 7 คน ลูกสาวอีก 7 คน เมื่อลูกๆ เติบโตขึ้นก็ได้แต่งงานมีครอบครัว ต่อมาสามีของนางได้เสียชีวิตลง นางถูกลูกๆ รบเร้าให้แบ่งสมบัติ เศรษฐินีท่านนี้จึงได้แบ่งทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ทั้งหมด ให้กับลูกๆ คนละเท่าๆ กัน โดยที่ไม่ได้ เหลือไว้ให้กับตัวเองเลย เพราะคิดว่า แม้ไม่มีสมบัติติดตัวสักชิ้น ลูกๆ ก็คงช่วยกันอุปัฏฐากดูแลยามแก่ชรา เนื่องจากนางไม่เคยสอนให้ลูกๆ ไปวัดฟังธรรม หรือสนใจในพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา ไม่ได้สอนให้ลูกรู้จักความกตัญญูต่อบิดามารดา สมัยแรกๆ ลูกแต่ละคนก็ช่วยกันรับหน้าที่ดูแลแม่คนละ เดือนหนึ่งบ้าง สองเดือนบ้าง แต่พออยู่นานๆ ไป ลูกแต่ละคนมัวยุ่งกับการทำธุรกิจการงาน ไม่มีเวลาดูแลแม่อย่างเต็มที่ บางครั้งก็พูดจากระทบกระเทียบว่า ทำไมแม่ไม่ไปอยู่บ้านหลังอื่นบ้าง เพราะ * เรื่องพระพหุปุตติกาเถรี, อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 41 หน้า 505-506. 62 DOU บทที่ 4 การ ทำ หน้าที่ กัลยาณมิตร ต่อตนเอง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More