ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทรงเผยมณฑลพระโอษฐ์ประดุจเปิดผอบแก้วอันเต็มด้วยของหอมต่างๆ อันมีกลิ่นหอมด้วยของหอมอัน เป็น
ทิพย์ เพราะอานุภาพของวจีสุจริตที่ทรงบำเพ็ญมิได้ขาดสายตลอดโกฏิกัปนับไม่ถ้วน เมื่อจะทรงเปล่ง
พระสุรเสียงอันไพเราะ ก็ตรัสถามว่า ได้ยินว่า พวกท่านผู้เป็นอุบาสก ทำลายสรณะ 3 เสียแล้วถึง
อัญญเดียรถีย์เป็นสรณะ จริงหรือ
พวกสาวกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้นไม่อาจปกปิดไว้ได้ พากันกราบทูลว่า “จริง พระเจ้าข้า” พระศาสดา
จึงตรัสว่า ดูก่อนอุบาสกทั้งหลาย ในโลกธาตุ เบื้องล่างจรดอเวจีมหานรก เบื้องบนจรดภวัคคพรหม และ
ไปตามขวางหาประมาณมิได้ ไม่มีใครที่ประเสริฐกว่าพระตถาคต บุคคลจะเป็นอุบาสกหรืออุบาสิกาก็ตาม
ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยอุดมคุณอย่างนี้ ชื่อว่า จะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้น ย่อมไม่มี
อนึ่งผู้พ้นจากการบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ แล้วเพราะเหตุไร
พวกท่านจึงพากันทำลายสรณะเห็นปานนี้ แล้วถึงอัญญเดียรถีย์เป็นสรณะ กระทำกรรมอันไม่สมควรเลย
แล้วพระองค์ก็ตรัสว่า ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งได้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ได้ถึงพระธรรมเป็นสรณะ
ถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ ชนเหล่านั้น จักไม่เข้าถึงอบายภูมิ ละร่างกายของมนุษย์นี้ไปแล้ว จักยังกายเทพ
ให้บริบูรณ์ มนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมากถูกภัยคุกคาม ย่อมถึงภูเขาบ้างป่าบ้าง อารามและต้นไม้ที่เป็นเจดีย์บ้าง
ว่าเป็นสรณะ นั่นแลมิใช่สรณะอันเกษม นั่นมิใช่สรณะอันอุดม เขาอาศัยสิ่งนั้นเป็นสรณะแล้ว
ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ ส่วนผู้ใดถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะแล้ว เห็น
อริยสัจ 4 ด้วยปัญญาอันชอบนี้แลเป็นสรณะอันเกษม นี้เป็นสรณะอันอุดม เขาอาศัยสิ่งนี้แล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์
ทั้งปวงได้
จากนั้นพระบรมศาสดาทรงตักเตือนว่า “ดูก่อนอุบาสกทั้งหลาย ชื่อว่าพุทธานุสติกัมมัฏฐาน
ธัมมานุสติกัมมัฏฐาน สังฆานุสติกัมมัฏฐาน ย่อมให้โสดาปัตติมรรคย่อมให้โสดาปัตติผล ย่อมให้สกทาคามิมรรค
สกทาคามิผล ย่อมให้อนาคามิมรรค อนาคามิผล ย่อมให้อรหัตมรรค อรหัตผล พวกท่านได้ทำลายสรณะ
เห็นปานนี้ กระทำกรรมอันไม่สมควรแล้ว”
พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงให้โอวาทอุบาสกทั้งหลายแล้ว ท่านเศรษฐีก็ลุกขึ้นจากอาสนะ ถวาย
บังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า กล่าวชมเชย แล้วประคองอัญชลีเหนือเศียรเกล้า กราบทูลว่า “บัดนี้ การที่
พวกอุบาสกเหล่านี้ทำลายสรณะอันสูงสุดแล้ว ถือสรณะที่ผิดยึดถือเอาด้วยการคาดคะเนยึดถือเอาอย่างผิดๆ
แล้วเกิดความเสื่อมเสียขึ้นนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดแสดงธรรม
ให้กระจ่างชัด ทําลายความเห็นผิดของผองเพื่อนของข้าพระองค์ด้วยเถิดพระเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “พวกท่านจงเงี่ยโสตฟังโดยเคารพ” แล้วพระองค์ทรงแสดงธรรม
ประกาศอริยสัจ ในเวลาจบอริยสัจสี่ อุบาสกทั้ง 500 คนทั้งหมดนั้น ก็ได้ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล เป็นผู้มีความ
มั่นคงในพระรัตนตรัยไม่คลอนแคลน
เราจะเห็นว่า ศรัทธาของคนเรานั้น ต้องอาศัยกัลยาณมิตรคอยประคับประคอง จะได้ไปถึงฝั่งแห่ง
อริยมรรค หากว่าได้กัลยาณมิตรผู้มีหัวใจยิ่งใหญ่ ไม่ย่อท้ออย่างเช่นท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้มีหัวใจยอด
กัลยาณมิตรที่อุตส่าห์ชักชวนเพื่อนๆ ให้เข้ามาสู่เส้นทางธรรม ทำให้ได้พบกับสันติสุขที่แท้จริง พบกับ
24 DOU บ ท ที่ 2 ค ว า ม สำ คั ญ ข อ ง กั ล ย า ณ มิ ต ร