ข้อความต้นฉบับในหน้า
การแก่งแย่งชิงดีกัน ให้เห็นประโยชน์สุขของส่วนรวมมากกว่าความสุขส่วนตัว แนะนำไม่ให้ประมาทในชีวิต
ให้เห็นคุณค่าของการได้อัตภาพเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างบารมี เมื่อทุกคนมีจิตสำนึก
เหล่านี้เกิดขึ้น จะเป็นพลังหมู่ เกิดกระแสแห่งการทำความดีร่วมกันขึ้น จะมีชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความเมตตา
ปรารถนาดีต่อกัน สันติสุขจะแผ่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สันติภาพโลกเป็นจริงได้เมื่ออาศัยกัลยาณมิตร
ราชายอดกัลยาณมิตร
สมัยที่พระบรมศาสดาบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์อยู่นั้น พระองค์ได้บังเกิดเป็นโอรสของ
พระเจ้าพรหมทัตมีพระนามว่า ชนสันธกุมาร เมื่อทรงเจริญวัยแล้ว ทรงมีความเชี่ยวชาญในศิลปวิทยาทุกอย่าง
หลังจากที่พระราชบิดาสวรรคต พระกุมารก็ได้ครองราชสมบัติ พระองค์ทรงเห็นคุณค่าของการเกิดมา
เป็นมนุษย์ อีกทั้งปรารถนาจะให้โลกนี้ร่มเย็นเป็นสุข ให้เป็นโลกแห่งสันติภาพ แม้พระองค์จะมีความสามารถ
ในการรบ แต่ก็ไม่ปรารถนาการรบ ทรงปกครองไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรม พระองค์ทรงรับ
สั่งให้สร้างโรงทานถึง 6 แห่ง บริจาคพระราชทรัพย์วันละ 6 แสน ทรงบำเพ็ญมหาทานบารมีจน
เป็นที่เลื่องลือไปทั่วชมพูทวีป และมีรับสั่งให้เปิดประตูเรือนจำ ปลดปล่อยนักโทษให้เป็นอิสรภาพ
ทรงทำการสงเคราะห์ชาวโลกด้วยสังคหวัตถุ 4 คนยากจนเข็ญใจเมื่อมาในอาณาเขตของพระองค์แล้ว จะ
ได้รับการช่วยเหลือทุกคน ทรงมุ่งขจัดทุกข์บำรุงสุข โดยไม่เลือกที่รักผลักที่ชัง แนะนำให้ทุกคนรักษาศีล 5
ทำให้พระองค์เป็นศูนย์รวมใจ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของมหาชน
ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ พระองค์จะสมาทานอุโบสถศีล และเชิญชวนให้มหาชนประพฤติธรรม
ตามพระองค์ ทรงรับสั่งให้ตีกลองป่าวประกาศให้ชาวพระนครทั้งหมดมาประชุมกันเพื่อฟังธรรม แล้วพระองค์
ก็ประทับนั่งเป็นประธานแสดงธรรมให้มหาชนตั้งอยู่ในความไม่ประมาท พร้อมทั้งตรัสถึงเหตุที่ทำให้
ไม่ต้องเดือดร้อนใจในภายหลังว่า
ไม่ควรปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยสูญเปล่า โดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย เมื่อยังเป็นหนุ่ม
ให้เร่งรีบศึกษาสั่งสมวิชาความรู้ในศิลปะการงานต่างๆ และนำความรู้นั้นขวนขวายทำการงาน หารายได้ให้
กับตนเอง และครอบครัว เพื่อจะได้ไม่เดือดร้อนใจในภายหลัง และให้ซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกง เพราะจะ
ทำให้ไม่ได้รับความเชื่อถือจากบุคคลอื่น และอย่าไปเบียดเบียนเข่นฆ่าให้ใครเดือดร้อน
เมื่อเป็นมนุษย์ ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีใจสูง ควรมีความอดทน ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น และ
เมตตาต่อสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า ให้ยินดีในคู่ครองของตน ไม่เป็นคนแสวงหาความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
เพราะสักวันหนึ่ง คนอื่นจะนำความทุกข์กลับคืนมาให้เรา เหมือนกงจักรที่ขว้างออกไป ในที่สุดก็จะย้อน
กลับมาหาตัว
ผู้ฉลาดควรหมั่นให้ทานอยู่เป็นนิตย์ ชีวิตจะได้ไม่ลำบากในภายหลัง อย่าเป็นคนตระหนี่
ที่ต้องเดือดร้อนใจในภายหลังว่า สมัยที่ยังมีข้าวน้ำอุดมสมบูรณ์ ไม่เคยให้ทานกับใครเลย ทำให้ต้องมาเป็น
"ชนสันธชาดก, อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, มก. เล่ม 60 หน้า 162-164.
บทที่ 6 ก า ร ป ลู ก ฝังอุดมการณ์เพื่อความเป็นกัลยาณมิตร DOU (89