ข้อความต้นฉบับในหน้า
8.4 กัลยาณมิตรนำพาชีวิตสู่นิพพาน
มนุษย์ทุกคนในโลกล้วนปรารถนาความสุข
และกำลังแสวงหาสิ่งที่เป็นสรณะอันแท้จริง ต่างก็
อยากจะรู้เรื่องราวของตัวเองว่าเกิดมาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต แต่การที่จะรู้เห็น
สิ่งเหล่านี้ได้ ต้องอาศัยกัลยาณมิตรมาคอยแนะนำให้เรารู้จักความเป็นจริงของชีวิต ผู้ที่ “คบกัลยาณมิตร
ชีวิตจะไม่ผิดพลาด
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน มหาสุตโสมชาดก ว่า
“การสมาคมกับสัตบุรุษแม้ครั้งเดียว ย่อมสามารถรักษาผู้นั้นไว้ได้แต่การสมาคมกับอสัตบุรุษแม้
หลายครั้ง ก็รักษาไม่ได้ จึงอยู่ร่วมกับสัตบุรุษ พึงกระทำความสนิทสนมกับสัตบุรุษ เพราะการรู้ทั่วถึงธรรม
ของสัตบุรุษ ย่อมมีแต่ความเจริญ ไม่มีเสื่อม ราชรถอันวิจิตรตระการตายังคร่ำคร่าได้ และแม้สรีระก็เข้า
ถึงชราโดยแท้ ส่วนธรรมของสัตบุรุษ ย่อมไม่เข้าถึงความคร่ำคร่า สัตบุรุษกับสัตบุรุษเท่านั้นรู้กันได้ ฟ้า
และแผ่นดินไกลกัน ฝั่งของมหาสมุทรก็ไกลกัน ข้าแต่พระราชา แต่ธรรมของสัตบุรุษและอสัตบุรุษ ไกลกัน
ยิ่งกว่านั้น” 1
เมื่อเราจะคบกับใคร จะเคารพเลื่อมใสในผู้ใด หรือจะเชื่อฟังถ้อยคำของใคร เราควรพิจารณาให้
ถ่องแท้ว่า บุคคลนั้นเป็นสัตบุรุษ หรือว่าเป็นอสัตบุรุษ หากเป็นอสัตบุรุษผู้ไม่มีศีล ไม่มีธรรม เราอย่าไป
เชื่อถือ เพราะจะทำให้เราเสียโอกาสในการสร้างบารมี แต่ถ้าหากเป็นสัตบุรุษ ผู้มีคุณธรรม เราควรจะ
เชื่อฟังและประพฤติตามบุคคลนั้น ตัวอย่างเช่น
ในสมัยพุทธกาล ณ กรุงสาวัตถี มีชายหนุ่ม 2 คน เป็นเพื่อนรักกัน คนหนึ่งชื่อ “สิริคุตตติ์” เป็น
ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา คนหนึ่งชื่อ “ครหทินน์” เป็นสาวกของนิครนถ์ พวกนิครนถ์จะพูดกับ
ครหทินน์อยู่เสมอว่า ให้ไปบอกสิริคุตตต์ว่า การเข้าไปหาพระสมณโคดมนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ให้
มาหาผู้เป็นเจ้านิครนถ์ มาถวายไทยธรรมแก่นิครนถ์ทั้งหลายจะดีกว่า ครหทินน์เพียรพยายามไปพูดกับ
สิริคุตตต์อยู่เนืองๆ สิริคุตตต์ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่เมื่อถูกรบเร้าบ่อยเข้า จึงถามเพื่อนไปว่า “พระผู้เป็น
เจ้าของท่านรู้อะไรบ้างล่ะ”
ครหทินน์ตอบด้วยความภาคภูมิใจว่า “โอ ท่านอย่าพูดอย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ไม่รู้เป็นไม่มี ท่านรู้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รู้ว่าอะไรจะเกิด อะไรไม่เกิด รู้การกระทำทั้งกาย วาจา ใจ
ของเราเชียวนะ”
สิริคุตตต์จึงกล่าวว่า “เรื่องนี้เราไม่ทราบมาก่อนเลย เราอยากจะเห็นอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า
นิครนถ์ ฉะนั้นขอช่วยนิมนต์ให้ท่านมาฉันภัตตาหารที่เรือนของเราในวันพรุ่งนี้หน่อยเถอะ” ครหทินน์ดีใจ
จึงรีบไปแจ้งข่าวให้นิครนถ์ทั้งหลายทราบ เมื่อนิครนถ์ทราบก็รู้สึกกระหยิ่มใจ คิดว่ากิจของเราสำเร็จแล้ว
ลาภสักการะจะเกิดขึ้นแก่เราอีกมากมาย
มหาสุตโสมชาดก, ขุททกนิกาย ชาดก, มก. เล่ม 62 ข้อ 343 หน้า 623-624.
128 DOU บทที่ 8 ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ การ ทำ ห น้ า ที่ กัลยาณมิตร