ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระเศียรขึ้นจากวงในขนด เห็นหมองูกำลังร่ายมนตร์ก็คิดว่า พิษของเรานั้นมากมาย ถ้าเราโกรธแล้ว
พ่นลมจมูกออกไป ร่างกายของหมองูต้องแตกละเอียดเป็นธุลี แต่ถ้าทำอย่างนั้น ศีลของเราก็จะด่างพร้อย
ครั้นสอนตัวเองเช่นนี้แล้ว ก็ขนดศีรษะต่อไป ไม่ต่อสู้หรือทำร้ายหมองู เพื่อรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
หมองูเห็นนาคราชไม่โต้ตอบ จึงเคี้ยวโอสถแล้วร่ายมนตร์ พ่นไปยังลำตัวของนาคราช
นาคราชเหมือนโดนถ่านเพลิงร้อนๆ สาดใส่ ลำตัวพองบวม ดิ้นทุรนทุราย หมองูจับหางนาคราชให้เหยียดตรง
บีบลำตัวด้วยไม้กีบ ทำให้ดิ้นไม่ได้ จับศีรษะแล้วบีบเค้นให้อ้าปากออก พ่นโอสถที่ร่ายมนตร์แล้ว เข้าในปาก
ของนาคราช ฟันของนาคราชหลุดออกหมด ปากเต็มไปด้วยเลือด จากนั้นหมองูก็ขึ้นไปเหยียบลำตัว ทำให้
กระดูกแหลกละเอียด ตลอดลำตัวของนาคราชเปื้อนไปด้วยเลือด สุดจะระงับความทุกข์ทรมาน และสติไว้ได้
แต่ด้วยกำลังใจอันเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวที่จะรักษาศีลยิ่งกว่าชีวิต จึงใช้ความอดทนอย่างยิ่งยวด ไม่ยอมแม้
กระทั่งคิดที่จะประทุษร้ายหมองูนั้นเลย
หมองูเห็นพญานาคราชอ่อนกำลังลง จึงจับใส่กรง แล้วนำไปแสดงตามหมู่บ้าน ไม่ว่าหมองูจะ
ให้พญานาคแสดงอย่างไร พญานาคก็ทำตามทุกอย่าง ประชาชนดูแล้วพากันชอบใจให้ทรัพย์แก่หมองู
เขานำพญานาคแสดงเรื่อยไป จนถึงเมืองหลวง พระราชาได้รับสั่งให้หมองูเข้าเฝ้า เพื่อทอดพระเนตร
การแสดงของนาคราช เช้าวันนั้นคนทั้งเมืองที่มาดูการแสดงของนาคราช ต่างชอบใจพากันปรบมือ
เป็นที่สนุกสนาน
วันนั้น นางสุมนาเทวีระลึกถึงสามีของตนจึงไปดูที่สระน้ำ เห็นน้ำในสระเปลี่ยนเป็นสีแดง
เหมือนโลหิต รู้ทันทีว่า พญานาคราชต้องถูกหมองูจับไปแน่นอน นางเสด็จออกจากนาคพิภพขึ้นไปเมืองมนุษย์
ดูร่องรอยที่สามีถูกหมองูทรมานแล้วจับไป นางร้องไห้เที่ยวเดินถามชาวบ้านเรื่อยไปจนถึงเมืองหลวง จึงเหาะ
ขึ้นไปยืนอยู่บนอากาศ เห็นพญานาคราชแสดงอยู่ ก็ร้องไห้ด้วยความสงสาร
พญานาคราชเหลือบไปเห็นนางยืนอยู่กลางอากาศ เกิดความละอาย จึงเลื้อยเข้าไปขดในกรุง
พระราชาสงสัยว่าเกิดอะไรกับพญานาค เมื่อทอดพระเนตรขึ้นไปบนอากาศเห็น
นางสุมนาเทวียืนร้องไห้อยู่ จึงตรัสถามขึ้นว่า “ท่านเป็นใคร ทำไมถึงร้องไห้เหมือนคนสติ
ฟั่นเฟือน ท่านสูญเสียอะไรหรือ” นางตอบว่า “หม่อมฉันกำลังตามหาพระสวามีที่ถูกหมองูจับไป และ
งูที่แสดงต่อหน้าพระองค์ คือสามีของหม่อมฉัน”
พระราชาตรัสว่า “ธรรมดาพญานาคนั้นมีฤทธิ์ มีพิษ มีกำลังมหาศาล ทำไมจึงตกอยู่ในอำนาจ
ของหมองูเช่นนี้” พระนางตอบว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ที่พญานาคไม่แสดงฤทธิ์นั้น เป็นเพราะกำลังรักษาศีลอยู่
ถ้าพญานาคราชไม่รักษาศีลแล้ว บ้านเมืองของพระองค์ก็จะมอดไหม้เป็นธุลีอย่างแน่นอน ขอพระองค์
ทรงปล่อยพญานาคราชด้วยเถิด”
พระราชาทรงรับสั่งให้หมองูปล่อยพญานาคทันที ทันใดนั้นพญานาคก็แปลงกายเป็นมนุษย์
ประคองอัญชลีขอบพระทัยพระราชาที่เมตตาให้ชีวิต และได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดถวายพระราชา จากนั้น
จึงกราบทูลเชิญเสด็จชมเมืองบาดาล
เมื่อพระราชาเสด็จไปถึงเมืองบาดาล ทรงเห็นสมบัติและบริวารของพญานาคราชมากมาย
บทที่ 5 การ ทำ หน้าที่ กัลยาณมิตร ต่อคนอื่น
DOU 71