การรู้จักตนเองและการเป็นกัลยาณมิตร DF 101 การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเบื้องต้น หน้า 60
หน้าที่ 60 / 142

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการรู้จักตนเองและคุณสมบัติที่กัลยาณมิตรควรมี เช่น สติสัมปชัญญะ ความรู้ประมาณ การรู้จักกาลและการวางตัวในสังคม รวมไปถึงการวิเคราะห์ความเป็นคนของผู้อื่น การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนกันอย่างเป็นระบบและมีคุณภาพ ในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงานและการปฏิบัติธรรม เรียนรู้ที่จะเหมาะสมกับสถานการณ์และคนรอบข้างเพื่อนำสู่ความสำเร็จในทุกด้านและมีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้าง

หัวข้อประเด็น

-อัตตัญญู
-มัตตัญญู
-กาลัญญู
-กัลยาณมิตร
-สติสัมปชัญญะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3. อัตตัญญู รู้จักตน คือรู้จักที่ต่ำที่สูง ควรไม่ควร รู้จักกำลังของตนเอง ว่ามีความรู้ความสามารถ เพียงไรกัลยาณมิตรจะต้องเป็นผู้ที่มั่นคงในเรื่องของความศรัทธาคือความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยมีสัมมาทิฏฐิ เบื้องต้นครบบริบูรณ์ ต้องมีศีลบริสุทธิ์ ไม่ด่างพร้อย มีสุตะคือศึกษาและเรียนรู้มามาก มีความเข้าใจโลกตาม ความเป็นจริง ต้องมีจาคะ ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว มีปัญญาสามารถสั่งสอนแนะนำบุคคลที่เราจะไปทำหน้าที่ได้จริง และต้องมีปฏิภาณเป็นยอด เพราะระหว่างการทำหน้าที่กัลยาณมิตร มีทั้งปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นโดยที่ เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน 4. มัตตัญญู รู้จักประมาณ บริหารตนเองได้ ตั้งแต่เรื่องความเป็นอยู่ ดำรงตนสมฐานะ ไม่ใช้จ่ายเกิน รายได้ รู้จักประมาณในการรับประทานและการบริโภคใช้สอยสิ่งต่างๆ แต่งตัวแม้ไม่เลิศหรู แต่ให้ดูดี เป็นที่ ตั้งแห่งความน่าเชื่อถือของผู้ได้พบเห็น มีความมักน้อยสันโดษ ไม่ฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย 5. กาลัญญู รู้จักกาล รู้จักบริหารเวลาให้กับตนเอง เวลาไหนควรทำอะไร กำหนดตารางกิจกรรมที่จะ ต้องทำในแต่ละวันหรือแต่ละเดือน จนกระทั่งตลอดปีให้ชัดเจน เช่น เวลาเรียน เวลาทำงาน เวลาพักผ่อน เวลานั่งสมาธิเจริญภาวนา เวลาศึกษาธรรมะเป็นต้น 6. ปริสัญญู รู้จักบริษัทหรือสังคม การจะเข้าไปสู่ที่ประชุมหรือสังคมใด ต้องรู้จักการวางตัว ต้อง ศึกษามารยาทหรือขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมของแต่ละสถานที่นั้นๆ ให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง จะได้ปฏิบัติ ตัวได้ถูกต้อง ควรรู้สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติให้ยิ่งกว่าสิ่งที่ควรปฏิบัติให้มากเข้าไว้ รู้จักการเดิน การยืน การนั่งและ การพูดจา อันจะเป็นทางมาแห่งการทำหน้าที่กัลยาณมิตรต่อสังคมนั้นๆ ได้สำเร็จ 7. บุคคลปโรปรัญญู รู้จักบุคคล การวิเคราะห์คนได้ถูกต้องตามหลักจริต อัธยาศัย นิสัยหรือธาตุของ ผู้ร่วมสนทนา คือความสำเร็จก้าวแรกและเป็นก้าวสำคัญในการทำหน้าที่กัลยาณมิตร จะได้รู้จักว่า บุคคลไหน ควรคบไม่ควรคบ ควรแนะนำธรรมะหมวดใดจึงจะตรงจริตอัธยาศัย เหมือนหมอที่จ่ายยาถูกโรคย่อมทำให้คนไข้ หายป่วยได้อย่างรวดเร็ว 4.1.2 สติสัมปชัญญะ บุคคลผู้ได้ชื่อว่าเป็นกัลยาณมิตร ควรมี สติ สัมปชัญญะอยู่เสมอ มีสติ หมายถึง ระลึกถึงสิ่งที่ล่วงมาแล้ว ทั้งที่เคยคิด เคยพูดและเคยทำมาก่อน ระลึกได้ทุกครั้งที่ ต้องการ ไม่เลื่อนลอยเผลอตัวในเรื่องปัจจุบัน ไม่หวาดหวั่นฟุ้งเฟ้อในเรื่องอนาคต สติจะคอยเป็นธรรมกั้น ความพลั้งเผลอ ทำอะไรมักจะไม่พลาด ไม่พลั้ง สัมปชัญญะ คือความรู้ตัวขณะกำลังทำ กำลังพูด กำลังคิด ความรู้ตัวอยู่เสมอนี้เป็นการป้องกัน รักษาซึ่งการกระทำ การพูด การคิด ทั้ง 3 กาล ไม่หันเหไปทางผิดตามกิเลส ระวังให้ตั้งอยู่ในทางถูกเท่านั้น ธรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีอุปการะมาก เพราะนำมาซึ่งความเกื้อกูลในการงานทั้งปวง ธรรมอื่นๆ นอกจากนี้ก็มี อุปการะมากเหมือนกัน แต่ไม่สำคัญเท่า 2 ข้อนี้ ถ้าสติสัมปชัญญะไม่มีแล้ว ธรรมอื่นก็มีไม่ได้ เพราะสติ สัมปชัญญะมีอุปการะแก่ธรรมเหล่าอื่นด้วย บทที่ 4 การ ทำ หน้าที่ กัลยาณมิตร ต่อตนเอง DOU 51
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More