ความหมายของกัลยาณมิตร DF 101 การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเบื้องต้น หน้า 21
หน้าที่ 21 / 142

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้พูดถึงการพบพระอัสสชิและการสนทนาเกี่ยวกับคำสอนของพระผู้มีพระภาค ซึ่งนำไปสู่การเห็นธรรมของโมคคัลลานปริพาชกและสารีบุตรปริพาชก การสื่อสารหลักธรรมขอพระศาสดาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของผู้ศึกษาธรรมในพุทธศาสนา สัญชัยปริพาชกแม้มีตำแหน่งอาจารย์ แต่ไม่ปรารถนาที่จะไปสักการะพระพุทธเจ้า ซึ่งสร้างทางแยกในความต้องการศึกษาธรรม ตามด้วยการเดินทางของสารีบุตรและโมคคัลลานะสู่พระผู้มีพระภาคเพื่อเข้าเฝ้าและศึกษาธรรมอย่างแท้จริง และการสั่งสอนที่พระอัสสชิได้ให้คำปรึกษามีความหมายมากต่อนักบวชใหม่.

หัวข้อประเด็น

-การพบพระอัสสชิ
-การเรียนรู้ธรรม
-พระศาสดาและการสอน
-การเห็นธรรม
-การเป็นกัลยาณมิตร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ภิกษุรูปนี้คงเป็นผู้ใดผู้หนึ่งแน่ ถ้ากระไร เราจึงเข้าไปหาภิกษุรูปนี้ แล้วถามว่า ท่านบวช เฉพาะใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน หรือท่านชอบใจธรรมของใคร เรานั้นได้ยั้งคิดว่ายังเป็นกาลไม่สมควรจะถามภิกษุรูปนี้ เพราะท่านยังกำลังเข้าละแวกบ้านเที่ยวบิณฑบาต “ฉะนั้นเราจึงติดตามภิกษุรูปนี้ไปข้างหลัง เพราะเป็น ทางอันผู้มุ่งประโยชน์ทั้งหลายจะต้องสนใจ” “ลำดับนั้น พระอัสสชิเที่ยวบิณฑบาตในพระนครราชคฤห์ ถือบิณฑบาตกลับไปแล้ว ต่อมา เราได้เข้าไปหาพระอัสสชิ ครั้นถึงแล้ว ได้พูดปราศรัยกับพระอัสสชิ ครั้นผ่านการพูดปราศรัยพอให้เป็นที่ บันเทิง เป็นที่ระลึกถึงกันไปแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้กล่าวคำนี้ต่อพระอัสสชิว่า อินทรีย์ของท่านผ่องใส ผิวพรรณของท่านบริสุทธิ์ผุดผ่อง ท่านบวชเฉพาะใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน หรือท่านชอบใจธรรมของใคร ขอรับ?” “พระอัสสชิตอบว่า มีอยู่ ท่าน พระมหาสมณะศากยบุตรเสด็จออกทรงผนวชจากศากย ตระกูล เราบวชเฉพาะพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นเป็นศาสดาของเรา เราชอบใจธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น” “เราได้ถามพระอัสสชิต่อไปว่า ก็พระศาสดาของท่านสอนอย่างไร แนะนำอย่างไร? พระ อัสสชิตอบว่า เราเป็นคนใหม่ บวชยังไม่นาน เพิ่งมาสู่พระธรรมวินัยนี้ไม่อาจแสดงธรรม แก่ท่าน ได้กว้างขวาง แต่จักกล่าวใจความแก่ท่านโดยย่อ เราได้เรียนว่า น้อยหรือมาก นิมนต์กล่าวเถิด ท่านจงกล่าวแต่ใจความ แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องการใจความอย่างเดียว ท่านจักทำพยัญชนะให้มากทำไม” “ผู้มีอายุ ครั้งนั้น พระอัสสชิได้กล่าวธรรมปริยายนี้ ว่าดังนี้” “ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับ แห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติทรงสั่งสอนอย่างนี้” ครั้นได้ฟังธรรมปริยายนี้ โมคคัลลานปริพาชก ก็ได้ดวงตาเห็นธรรมเช่นเดียวกับสารีบุตร ปริพาชก ท่านมีจิตผ่องใสปราศจากธุลีปราศจากมลทิน รู้ประจักษ์ชัดว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับไปเป็นธรรมดา ปริพาชกทั้งสองจึงปรึกษากันว่าควรที่จะเชิญชวนสญชัยปริพาชก ซึ่งเป็นอาจารย์เข้าไป สักการะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยกัน เพราะแม้พระอัสสชิซึ่งเป็นพระสาวก ยังกล่าวธรรมจนท่าน ทั้งสองได้ดวงตาเห็นธรรม หากได้เข้าเฝ้าถวายสักการะแด่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ย่อมจะ เกิดประโยชน์แก่ชีวิตอย่างมหาศาล แต่สญชัยปริพาชก ไม่ปรารถนาที่จะไปด้วย ยังมีความพอใจที่จะ เป็นอาจารย์ของหมู่ปริพาชกอยู่เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม สารีบุตรปริพาชกและโมคคัลานะปริพาชก ก็ชวนกันเดินทางไปเข้าเฝ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยความมุ่งมั่น พระพุทธองค์ครั้นได้ทอดพระเนตรเห็นสารีบุตร โมคคัลลานะมาแต่ไกล จึงมีรับสั่งกับ พระภิกษุทั้งหลายว่า 12 DOU บท ที่ 1 กั ล ย า ณ ม ต ร คือ อะไร
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More