ข้อความต้นฉบับในหน้า
ความมืดเป็นกลอเป็นสาหรับของเรา แล้วเราจะอยู่กับความมืดได้อย่างสบายใจ
โดยไม่งงหงิดอึดอัดว่า เรานั่งมานานแล้วทำไมไม่สว่างสักที
เมื่อเราเป็นมิตรกับความมืด ความมืดก็จะเป็นมิตรกับเรา นี้ก็เป็นเรื่อง
แปลกนะ แต่ถ้าเรฮีดอัด หงุดหงิด พยายามจะเพ่งชับให้ความมืดให้ออกไป
หรือพยายามจะนึกถึงความสว่าง ทำให้จิตใจเครียด เพราะทำไม่ถูกหลัก
วิชา วิธีที่ถูกต้องคือให้ทำเฉย ๆ นิ่ง ๆ นุ่ม ๆ ละมุนละไม ทำใจสบาย ๆ
อยู่กับความมืดสักพักหนึ่ง เดี๋ยวตัวเราก็จะค่อย ๆ โล่ง โปร่ง เบา สบาย ขยาย
แสงสว่างก็จะเกิดขึ้น มันก็เป็นขั้นเป็นตอนไป
ให้เริ่มต้นทำให้ถูกหลักวิชา เดี๋ยวเราก็จะทำความสำเร็จล้านเปอร์เซ็นต์
เพราะยังไงเราก็ต้องเข้าถึงอย่างแน่นอน ที่เข้าไม่ถึงเป็นไปไม่ได้ ถ้ายืน
และทำถูกหลักวิชา มั่นตรึก มั่นนิ่ง มั่นคิด มั่นฝึกฝน มั่นสังเกตไป
เรียง ๆ มันจะไปสู่เราได้อย่างไร เดี๋ยวก็เพร่าฝึกไปเรื่อย ๆ อย่างสบาย ๆ
แล้วก็ไม่ต้องไปควานหาอะไรในที่มีแต่เผื่อว่าจะเจอดวงหรือองค์พระ ก็ไม่
ต้องถึงขนาดนั่นน่ะ ให้ดูเฉย ๆ เพราะดวงกับองค์พระมีอยู่แล้วในตัว เหมือนเรา
อยู่ห้องมิด ๆ ในห้องเต็มไปด้วยโต๊ะ เตียง ตั้ง ตุ๊กตา พระของบนโต๊ะมากมาย
เราเข้าไปในห้องมิดใหม่ ๆ ยังไม่คุ้น มองอะไรไม่เห็น ทั้ง ๆ ที่โต๊ะ เตียง ตั้ง
ดู ก็มีอยู่ แต่พอเรายืนนั่ง ๆ ทำเฉย ๆ ลักพัก ลายตาของก็จะค่อย ๆ คุ้นกับ
ความมืดจากมืดมิดก็มา มิดมากมายมิดมัว มาสลัวสลัว ๆ พอที่เรา
จะเห็น ตู้ โต๊ะ เตียง ตั้งได้ พอที่จะค่อย ๆ เดินไปข้างฝ่าค้นหาสิติลต์ไฟได้
ความมืดภายในตัวก็คล้าย ๆ อย่างนั้น ทำใจเราให้คุ้นกับความมืดภายใน
ด้วยใจที่สบาย ความสบายเท่านั้นจึงจะทำให้เข้าถึงธรรมได้ ความลำบากไม่
เคยทำให้ใครเข้าถึงธรรมเลย ต้องอารมณ์สบายอย่างเดียว แม้พระธุดงค์ท่าน