การทำความเพียรและการรักษาศีลในพุทธศาสนา บางสิ่งที่แสวงหา หน้า 186
หน้าที่ 186 / 218

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายเกี่ยวกับความหมายของคำว่าสบายในการทำความเพียรในพุทธศาสนา ไม่ได้หมายถึงการขี้เกียจ แต่เป็นการทำใจให้สบายเพื่อการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาศีล 5 และศีล 8 ที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ควรอธิบายให้คนรอบข้างเข้าใจถึงคุณค่าของการทำความดี มีการกระตุ้นให้คนสนใจศึกษาธรรมะ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความเลื่อมใสในพุทธศาสนา

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของการทำความเพียร
-การรักษาศีลในพุทธศาสนา
-ตัวอย่างที่ดีในสังคม
-การอธิบายธรรมะให้ผู้อื่นเข้าใจ
-แรงบันดาลใจในการศึกษา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

แต่คำว่าสบายในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ขี้เกียจ หรือเรื่อยเปื่อย อย่างนั้นนะ สบาย ๆ อย่างนั้นสบายแบบนี้ไม่ทำอะไร แต่สำหรับการทำความเพียร หมายถึง ทำอารมณ์ให้สบาย ไม่ให้ตึง ไม่ให้หย่อนเกินไป ทำใจเคร่งประโลมิก ลูกทุกรูปมีบุญญาธิการมาก ถ้ามีบุญน้อยไม่ได้มาวซาหรอก มามาซแล้วยังได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องวิชธรรมนาย เกี่ยวกับเรื่องมรรคผลนิพพานอยู่ในตัว พระธรรมกายอยู่ในตัว จะเข้าถึงได้ด้วยการหยุดการนั่ง เมื่อเรามีบุญมากก็ต้องใช้บุญให้เป็น ฝึกให้ใจหยุดนั่งไปเรื่อยๆ ทำความเพียรรวมไปยังไม่สายเกินไป เมื่อเราลาสิกขาแล้วก็ไปเป็นคฤหัสดีดี เป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีของโลก ในยามนี้โลกขาดแคลนตัวอย่างที่ดีให้ดู รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ศีล ๔ ตอนช่วงที่เรามีความพร้อม หรืออย่างน้อยวันพระ ซึ่งก็ทราบเราได้ฟื้นฟูวันพระให้ชาวพุทธทั้งหลายได้เห็นคุณค่า วันพระไหนตรงกับวันทำงาน เราก็ถือศีล ๘ เวลาเพื่อนร่วมงานถามเราจะตอบได้ว่ามีถือศีล ๘ เพราะวันนั้นวันพระ โน้ม เขาไม่เข้าใจ เขาอาจจะหัวเราะว่าเราเชย มงาย หรืออะไร ก็แล้วแต่ เราก็ต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ อธิบายให้เขาฟังว่า ไม่ใช่เฉย ไม่ใช่งมงาย นี่เป็นอารมณ์ะเทศนี้ขอพระอรหันต์ผู้ประเสริฐ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร แล้วก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวพุทธ เราเป็นชาวพุทธก็ต้องปฏิบัติอย่างนี้ แล้วต่อไปเสียงหัวเราะจะค่อย ๆ หายไปอะไรคนลองคน แล้วก็จะเปลี่ยนมาเป็นความเลื่อมใส แม้บางคนจะยำยำ แต่ถ้าทำยิ้มแย้ม และตอบไปด้วยเหตุด้วยผล จะยิ้มอย่างไรแต่ในใจเขาเลื่อมใสนะ แล้วเขาจะเกิดแรงบันดาลใจที่จะมาศึกษา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More