ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อมาบวชแล้วก็ต้องมีพระธรรมวินัย คือกรอบของพระ สู่ทางของพระ
ให้ไปสู่พระนิพพาน เหมือนจิ้งจกของนักที่ทำไปสู่เชยอย่างนั้น ที่นี้
สำหรับพระภิษุที่เข้ามาบวช ที่ท่านเป็นพระอริยบุคคลก็หมดปัญหา แต่ที่
ยังเป็นปุถุชนมีเลสอลีย์ แต่ก่ำำทำความเพียร โอกาสผิดพลาดก็มีอยู่
เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการปรารภกันในวันสุดท้ายก่อนออกบวชว่า
ถ้าใครเห็น ใครได้ยิน หรือสงสัยว่าอภิรูปใดรูปหนึ่งประพฤติไม่ถูกต้องตาม
พระธรรมวินัยซึ่งจะทำให้เน้นชำต่อการไปสู่พระนิพพาน ก็ให้ตกเตือนกันได้
เหมือนชี้ชุมทรัพย์ให้กัน
เมื่อปวารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไปปฏิบัติธรรม
ตามป่าตามเขา ห้วยหนองคลองบึง โคนไม้บ้าง เรือนว่าง ลอยฟาง ป่าช้า
บ้าง การไปแสวงหาที่เวกุฏิธรรมมิไม่สะดวกสบาย ต้องเสี่ยงภัยต่อ
โรคภัยไข้เจ็บบ้าง คนภัยคนพาลบ้าง ภัยธรราชบ้าง สัตว์ร้ายนบ้าง คนร้าย
บ้าง เพราะฉะนั้นมันเสี่ยง ดังนั้นจึงต้องช่วยแนะนำนัดกัน
หรือแม้ประพฤติตรงตามพระธรรมวินัย แต่เกิดมีความกระสันอยากสัก
คืออยู่ ๆ เกิดความรู้สึกอยากเป็นมรรวาสขึ้นมาเฉย ๆ ตอนแรกก็มีอารมณ์
อยากเป็นพระ แต่บังไปนั้นมันไม่เห็นสักที มันมีด มันเมือ นั่งหลังขด
หลังแข็งไม่เห็นสักที เห็นญาติโยมที่เข้าวัดมาทำบุญ โอ้โห นั่งเบนชมอย่างนี้
โรส-รอยอย่างนี้ ครอบครัวก็ดีมีความสุข ดูอบอุ่น มีกุลเล็ก ๆ น่ารัก น่าเอ็นดู
เกิดความรู้สึกอยากจะเป็นอย่างนั้นบ้าง เกิดความกระสันอยากสัก
ถ้าเห็นใครเป็นอย่างนี้ หรือมีทีท่าว่า จะเป็นอย่างนี้ ก็ต้องอาศัยความรัก
และปรารถนาดีต่อเพื่อนสหธรรมิก ต้องไปเป็นกัลยาณมิตรให้ จะได้ดีฉัน