ข้อความต้นฉบับในหน้า
ความมืด คือ สหายของเรา เป็นกลอของเรา เป็นความมืดที่น่ารัก คิด
อย่างนี้แล้วใจเราจะสบาย ไม่ต้องฝืนอารมณ์ เผื่อไว้ความมืดเหมือนเรา
อยู่ห้องมืด ๆ พอเรายืนเฉย ๆ ไม่ช้าสายตาก็จะคุ้นกับความมืด จากมืดมาก
มายมืดมิด มืดมัว มืดสนิท ๆ กระทั่งพอจะแว่นวัตถุสูงของ โต๊ะ ตู้ เตียง
ตั้ง ที่อยู่ในห้องมืด ๆ นั่นได้ แล้วก็ม่องเห็นวัตถุชัดตรงไหน ไปดาวสวิตซ์
บันใสความมืดไปได้
ความมืดภายในก็เช่นเดียวกัน แค่เราทำงี้ ๆ เฉย ๆ สบาย ๆ แล้วเราก็จะค้นพบว่า ความมืดจริง ๆ แล้วไม่มีเลย จากมืดมาก มืดมิดมวล แล้วก็ไม่
ค่อยจะมืดดี แล้วก็ฟ้าสาง ๆ เดี๋ยวก็แจ้งจางไปเลย
ที่อึกข้อที่เป็นอุปสรรค คือ ความเมื่ยง บางคนเมื่อยนิ้วเดียวก็เลิกนัง
แล้ว อย่าลืมว่าเราเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่ใช่เทวดา ก็มีเมื่ยงเป็นธรรมดา ความ
เมื่ยงนี้แกไม่ยาก ไม่เป็นอุปสรรค เมื่อยก็ยุบก็แค่นั้นเอง
ความฟุ้ง คือ ขบวนการของความคิดที่ถูกเก็บสะสมเอาไว้ในดวงใจ
ของเรา จากประสบการณ์ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั้งเข้านอน ไม่ว่าเราจะทำ
ภารกิจการงานอะไรด้าม รวมทั้งเรื่องราวในอดีที่ผ่านมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ถูก
เก็บสะสมเอาไว้ในใจ พอถึงเวลาที่เรามานั่งสมาธิ มันจะค่อย ๆ คลี่คลายออก
มา เป็นภาพบ้าง เป็นเสียงบ้าง เป็นทั้งภาพทั้งเสียงบ้าง จนกระทั้งเกิดความ
รู้สึกเบื่อหน่าย คิดว่ามันเป็นอุปสรรค
ความจริงแล้ว ความคิดกับจิตเป็นของคู่กันตลอดนะ อยู่ในน้ำก็คิด
ได้ ฟังได้ ไปอยู่ในอากาศโล่ง ๆ ก็คิดได้ อยู่ตรงไหนก็คิดได้ทั้งนั้น ที่ใดมี
ความคิด ที่นั้นก็ฝึกคิดได้ ไม่ใช่เป็นอุปสรรคอะไรเลย