ข้อความต้นฉบับในหน้า
ท่านเล่าให้ฟังว่า เขาไปกราบพระเดชพระคุณหลวงปู่ ที่ใส่ ท่านมักจะเล่าเรื่องการปฏิบัติธรรมให้ฟังอยู่เรื่อย ๆ ว่า
"การปฏิบัติธรรมนี้ มันอร่อยจริง ๆ นะ แล้วยิ่งอร่อยเพิ่มขึ้น เหมือนอาหารที่ใส่กะปิที่มีอยู่หลายชั้น รับประทานชั้นแรกว่ายอร่อยแล้ว ชั้นดัดไปเรือย ๆ นั้นเข้าไปอีก มันอร่อยจริง ๆ"
โยมก็ถาม "หลวงพ่อ แล้วเมื่อไหรจะได้อร่อยบ้างล่ะ"
"เอ้า จะไปยกอะไร อยากได้เมื่อไหร่วะ"
"อยากได้วันนี้เลย ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูดแล้ว อยากได้จังเลย"
"เอ้า ไม่ยาก วันนี้ไปดูจูปหน้าโต๋หมู่ชา อธิษฐานจิตให้ดี ไม่ได้ตายเถอะ แล้วนั่งไปเขหน้าโต๋หมู่ชานะ จนกว่าใจจะหยุดนั่ง มันไม่ตายหรอก คนจะตายต้องป่วย เราไม่เจ็บไม่ป่วยแล้วมันจะไปตายทำไม ฉันเองลองครวญ ...." ท่านว่านั่นน่ะ
เอาอีกแล้ว ท่านชอบยกตัวอย่างตรงนี้ เพราะว่าถ้าได้ทำสิ่งที่สำคักครั้งสองครั้งในชีวิต มันจะเปลี่ยนและภาคภูมิใจกันไปตลอดชาติเลย ลืมไม่ลง คงไม่ลืม ปลื้มทั้งชาติ แล้วก็ปลื้มทุกชาตด้วย
แล้วครูไม่ใหญ่ก็ถาม "แล้วโยมกลับไปทำหรือเปล่า"
ท่านบอกว่า "มันยังใจไม่ถึง"
"โยมมันเอาอย่างนี้สิ แล้วถ้าใจยังไม่ดีงั้น ถ้าใจยังไม่ถึงตรงนี้ ก็อด ๆ ทำไปใจก็ยืน ๆ ให้ มัวแต่กังวลใจ สบายอกสบายใจ ฝึกหยุดฝึกนั่งไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็มาถึงเองแหละ"
รู้สึกท่านจะชอบอย่างนี้ ตอนนี้ไม่ทราบว่ารยังอยู่หรือเปล่า แต่ท่านรู้สึกจะทำอย่างนี้ ถือเป็นเรื่องราวของผู้มีภูมิปัญญาในกล่ำ ที่เขาตั้งใจประกวดปฏิบัติธรรมกัน
๔๕๐