การฝึกจิตเพื่อความสบาย : หน้า 171/218

ที่จริงกำลังเล็ง เปลือกตาเต้นตุบ ๆ กะพรึบเปลือกตาดี ๆ นั้นแหละ กำลังเล็งอยู่ เอาผลิ่ยน์ตากลงไปดู แต่ไม่รู้ว่า แต่ถ้าสบายจริง ๆ จะเหมือนเราหลับตา ตอนนอนหลับ จะไม่บ่อย ๆ ถ้ายิบ ๆ ไม่หลับ ไปลองดูนะ คืนนี่อยิบ ๆ ดูสิว่าจะแหลับไหม แล้วเวลาเราเห็นภาพภายในตาจะไม่ยิบ ๆ ดวงนี้ออย่ารู้ว่ามันดูธรรมดาเหมือนดูภาพภายในอย่างนั้น ทำอย่างสบาย ๆ ที่ต้องใช้คำว่า สบาย ๆ เพราะมีหลายคนทำลำบาก ๆ ปฏิบัติลำบากแล้วก็ยกด้วย แต่ดีหน่อยว่าได้บิรปารมี เป็นผลวมปัจจัยไปเมืองหน้า ภาษาต่อไปจะนั่งทน หลังจากนั้นนาน และถ้ากะพรึบชาตินี้ ชาติต่อไปก็ไปกะพรึบต่อ เพราะฉะนั้นจะเลิกกะพรึบชาตินี้หรือว่าติดใจ กะพรึบต่อไป ดังนั้นจ้าไว้ต้องสบายทั้งกายและใจ คุณเรามีแต่กายกับใจนี้แหละ ถ้าสบายทั้งสองอย่างก็เอาล่ะ ถ้ามีกายไม่มีใจเขาเรียกว่า คง มีแต่ไม่มีกายเขาเรียกว่า มี มี กายและใจก็เรียว่าคนสบายก็ต้องสบายทั้งกายและใจ กายก็ต้องผ่อนคลาย ใจเช่นเดียวกัน คือจะหย่อน ๆ หน่อยไม่ดึง นี่ความหมายของคำว่า สบาย สม่ำเสมอ ก็อาจทำให้ได้ทุกวัน ทุกอริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน หรือว่านั้นมากไปก็เอาแค่ 2 เวลา หลับตากับ ลิ้มตา หรือทยใจเข้า หายใจออก นี้ครูไม่ใหญ่ก็พยายามจะให้มันง่ายเข้า มาเรื่อย ๆ ง่าย ๆ ไม่รู็จะว่าอย่างไร แล้ว คือถ้าจับปนเข้าไปได้ก็ไม่มีปัญหา แต่มั่นทำไม่ได้ ได้แต่แนะนำวิธีการ แต่ทำเราต้องทำเอง อีกทั้งมัน สังเกต สังเกตดูตอนใหน ตอนเลิกนั่ง อย่าไปสังเกตตอนนั่ง เดี๋ยวเอ็นเหล็กเกร็งไปหมด สังเกตตอนเลิกว่ารา วันนี้เรานั่งได้ผลดีไหม เพราะอะไร ไม่มีเพราะอะไร ไปบทนาวกันดู