ข้อความต้นฉบับในหน้า
ก็ไม่แน่นอน เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง เดี๋ยวไปสวรรค์ เดี๋ยวไปอบาย เดี๋ยวเป็นคนสวย คนหล่อ เดี๋ยวก็สวยหรืเดี๋ยวรวย เดี๋ยวเป็นพระราชา เดี๋ยวเป็นยากถิพิผลเปลี่ยนกันอย่างนั้นอยู่เรื่อย ๆ และที่สำคัญทุกคนที่เกิดในสังสารวัฏส่วนตกอยู่ในกฏแห่งกรรมทั้งสิ้น
กฏแห่งกรรม พระสัมมาสัมพุทธไม่ได้ขึ้น แต่พระองค์ก็ไปดูแลแล้วมีมหากรุณาจำนำมาสอนสัตว์โลกเพราะความสงสาร กฏแห่งกรรมนี้ตั้งขึ้นโดยผู้มีฤทธิ์มีอานุภาพมาก เป็นฉากหลังบังคับสรรพสิ่งทั้งหลายตัวตกอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมทั้งสิ้น โดยเฉพาะมนุษย์ไม่ว่าจะคิด พูด ทำล้วนแต่มีบารมีผลทั้งสิ้น คิดดี พูดดี ทำดี ก็มีบารมีที่ดี คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี ก็มีบารที่ไม่ดีเกิดขึ้น
กฏแห่งกรรมไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่มีวัน แต่กฏหมายเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ในทุกภูมิภาคทั่วโลกก็ยังมีแตกต่างกันไปแล้วแต่ความจำเป็นแต่กฏแห่งกรรมมันคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง บางอย่างถูกกฏหมายแต่ผิดกฏแห่งกรรม ถึงแม้ไม่ติดคุกแต่ก็ไปอบาย
เพราะฉะนั้น กฏแห่งกรรมจึงสำคัญมาก ภัยนี้เป็นภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวงในสังสารวัฏ จะมีทางหนี กฏแห่งกรรมได้ก็ต้องหลุดจากภพสามไปสู่อตนินิพพาน ฉะนั้นเกิดกว่าจะทำพระนิพพานให้แจ้ง เพราะเหตุนี้ถึงจะต้องทำอย่างไรก็ได้ให้หลุดพ้นจากภพสาม จะหลุดได้ก็ต้องขัดเกลาสะอาดให้หมดสิ้นไป
มรรคผลนิพพานอยู่ในตัวของเรา เริ่มตั้งแต่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ด้วยการนำใจมาหยุดนิ่งเฉย ๆ จับหลักอย่างนี้ได้ก็บายแล้ว ไปอยู่ตรงไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นพระธรรมาเราก็ต้องมาฝึกหยุดฝึกนิ่ง ให้โอกาสกับตัวเราได้