การบรรพธรรมและพระรัตนตรัยในตัว บางสิ่งที่แสวงหา หน้า 70
หน้าที่ 70 / 218

สรุปเนื้อหา

เนื้อหากล่าวถึงการบรรพธรรมโดยการเห็นพระในตัว ซึ่งเป็นการเข้าถึงพระรัตนตรัยในใจตนเองที่สำคัญไม่แพ้พระนอกตัว โดยเฉพาะในการฝึกฝนตามคำสอนของหลวงปู่พระมงคลเทพมุนีที่เคยกล่าวว่าเมื่อเข้าถึงพระในตัวแล้วจะช่วยเหลือผู้อื่นทั้งในนรกและสวรรค์ได้ เนื้อหายังเน้นถึงความสำคัญของการเห็นพระในตัวว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้ชีวิตมีอุ่นมีปลอดภัย และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรมท่ามกลางมวลชนที่มีความเชื่อมั่นในคำสอนของท่าน.

หัวข้อประเด็น

-การบรรพธรรม
-พระรัตนตรัยในตัว
-คำสอนของหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี
-การเข้าถึงพระภายใน
-การช่วยเหลือในนรกและสวรรค์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กัล์ไปวัน ๆ เพราะจะได้เดือนพวกเราให้รู้ว่า สิ่งที่เราได้ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้น พรรษานั้นจะต้องทำให้สำเร็จได้ เราตั้งใจเอไว้ว่าพรรษานี้จะเป็น พรรษาแห่งการบรรพธรรม คือ พระ เห็นพระ เถรเห็นพระ แล้วก็โยมเห็นพระ หมายถึง ทุกคนจะต้องเห็นพระให้ได้ภายในพรรษานี้ พระในที่นี้ก็คือพระรัตนตรัยในตัว ที่นอกเหนือจาก พระรัตนตรัยนอกตัว ซึ่งเราชาวพทธก็ได้เห็นกันเป็นปกติอยู่แล้ว พระในตัวนั้นสำคัญมาก เพราะท่านอยู่กับเนื้อกับตัวของเรา ถ้าเรา เข้าถึงท่านยังไม่ได้ ชีวิตยังไม่อุ่น ยังไม่ปลอดภัย ถึงแม้จะมีพระนอกตัว ให้เคารพกราบไหว้ขอพร มันทราบแต่มังยังไม่ซึ้งถึงใจ แต่จะให้ซาบซึ่งถึงใจก็ ต้องเข้าถึงพระภายในให้ได้ พระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) ผู้ค้นพบวิชชา ธรรมาย ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้กล่าวเสมอเลยว่า เข้าถึงพระรัตนตรัยใน ตัวได้เมื่อไร จะไปพิสูจน์เรื่องกามเผงกรรมได้ ท่านใช้อ้างว่า “ไปนรกก็ได้ ไป สวรรค์ก็ได้ ไปมีมือถือแขนพูดจาโตตอบกับสัตว์นรก หรือเทวดาบนสวรรค์ ก็ได้ พ่อแม่ตายไปอยู่ไหนไปช่วยได้ทั้งในนรกและในสุดดิภาพ” นี่ท่านพูด เสมอเลยตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็เลยทำให้เรามีกำลังใจ แม้จะไม่ได้เจอองค์ท่าน แต่เราก็เจอคำสอนของท่าน สิ่งที่ท่าน ได้กล่าวเอาไว้อันเป็นเครื่องยืนยันในการบรรพธรรมของท่าน และในยุคนั้นก็มี ผู้บรรพธรรมตามเยอะมาก เป็นพยานในคำสอนของท่านได้เป็นอย่างดี และสืบทอดกันเรื่อยมาถึงปัจจุบันนี้ ที่ไปนรกก็ได้ ไปสวรรค์ก็ได้ จับ มือเขนพูดจาโตตอบสัตว์นรกกับเทวดาได้ พ่อแม่ตายแล้วไม่ว่าจะไปอยู่ ในนรกในกามภูมิไนก็สามารถไปช่วยได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More