ข้อความต้นฉบับในหน้า
4
พี่ เ ณ ร ส อ น น้ อ ง 2
เนื่องจากพี่เณรเป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 4 คน
โยมพ่อโยมแม่ท่านก็เลยรักและเป็นห่วงมาก เมื่อพี่เณรเรียนจบ
ชั้นประถมแล้วได้เห็นพวกพี่ๆ เขาบวชกัน ก็อยากจะบวชกับเขา
บ้าง เลยไปขอโยมแม่บวช แทนที่ท่านจะดีใจและอนุโมทนา
กลับคัดค้านไม่ยอมให้บวช พี่เณรต้องอ้อนวอนท่านอยู่หลายครั้ง
จนในที่สุดท่านก็อนุญาตให้บวช
พี่เณรบวชตั้งแต่อายุ ๑๑ ขวบ ตอนนั้นคิดว่าจะบวชสัก
พรรษาสองพรรษา แต่คงเป็นด้วยบุญเก่าส่งผลเป็นแน่แท้ จึง
ทําให้ที่เณรบวชมาได้ถึงทุกวันนี้
ถ้าจะถามว่าในตอนนี้พี่เณรคิดถึงโยมพ่อโยมแม่ไหม? ก็
ตอบตามตรงเลยว่า “ทั้งคิดถึงและสงสารท่าน” นึกเหมือน
กันว่าโตขึ้นเราจะต้องตอบแทนบุญคุณท่านที่อุตสาห์เลี้ยงดูเรามา
พออยู่ต่อๆ มา ก็ได้คิดว่า “เราบวชอย่างนี้แหละ จึงจะ
ตอบแทนบุญคุณท่านได้มากกว่าการอยู่เป็นฆราวาส”
เนื่องจากเราสามารถชักชวนให้ท่านทำทาน รักษาศีล และ
เจริญภาวนาได้ดีกว่า
เมื่อพี่เณรได้บวชแล้วก็ไปอยู่สำนักสงฆ์เล็กๆ แห่งหนึ่ง
กับหลวงปู่และเพื่อนสามเณรอีก ๒ รูป ที่นั่นคล้ายกับเป็นวัด
ประจําหมู่บ้าน พอตื่นเช้าขึ้นมาก็กวาดลานวัด แล้วออกบิณฑ
บาต ต้องออกแต่เช้ามืด ทางก็ไกล บางวันไม่ค่อยได้อะไร ได้
ข้าวเหนียวกับหมูปิ้งมาชิ้นหนึ่ง ฉันไม่อิ่มท้อง ไม่รู้จะทำยังไง
เลยพาเพื่อนๆ ไปปีนต้นมะพร้าว