ข้อความต้นฉบับในหน้า
7
ส า เ ป็ น หั ว ใ จ ใ น ปี 5 0
-นึกโกรธก็ให้อภัยเขาเสียคิดว่าผู้ที่ไม่เคยเป็นญาติกับเรา
มาก่อนย่อมไม่มี แล้วแผ่เมตตาให้เขามีความสุข เราก็จะพลอย
ได้รับความสุขใจนั้นด้วย
การแผ่เมตตาเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ทำง่ายๆ โดย
ทําใจให้สงบนิ่ง นักแผ่ความสุขใจ ความเมตตาปรารถนาดี
ออกจากกลางกาย ให้กระแสแห่งความเมตตานั้นครอบคลุม
ตนเอง บุคคล ที่เรารัก บุคคลทั่วๆ ไป บุคคลที่เป็นศัตรูเรา
ตลอดจนถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างไม่มีประมาณ
การแผ่เมตตาจะทำให้เราได้รับอานิสงส์ ๑๑ ประการคือ
ทําให้หลับเป็นสุข ตีนเป็นสุขไม่ฝันร้าย เป็นที่รักของมนุษย์ เทวดา
ย่อมลงรักษา ไฟศาสตราวุธยาพิษไม่แผ้วพาน จิตตั้งมั่นได้เร็ว
ไม่หลงทำกาละ และย่อมเข้าถึงสุคติ
ธรรมชาติของจิตมีการนึกคิดตลอดเวลา เดี๋ยวคิดโน่นคิด
นี่ อยากได้โน่นได้นี่ อยากเป็นโน่นเป็นนี่ ถ้าความคิดนั้นไม่มี
สติก๋ากับ ก็จะกลายเป็นความฟุ้งซ่าน ทําให้ใจกระจัดกระจาย
ไม่มีพลัง “สติ เป็นตัวควบคุมความนึกคิด” ไม่ปล่อยให้อารมณ์
พล่านไปเหมือนเป่าแป้งในถาด “สติเป็นเหมือนนายประตู”
ที่คอยเฝ้าดูสิ่งต่างๆ ที่จะผ่านเข้ามากระทบทางตา หู จมูก
กาย ใจ ถ้าสิ่งใดเป็นประโยชน์ก็จะปล่อยผ่านเข้ามาได้ แต่สิ่งใด
ไม่เป็นประโยชน์ก็จะยับยั้ง หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้เข้ามาทำร้าย
จิตใจ
ลิ้น