ข้อความต้นฉบับในหน้า
8
พี่ เ ณ ร ส อ น น้ อ ง 11
ในครั้งพุทธกาล มีพระเถระรูปหนึ่งชื่อ “ตาลปุระ” หลัง
จากบวชแล้วออกไปบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในป่า ท่านใช้เวลา
ทําความเพียรอยู่นาน แต่ก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ในที่สุดท่าน
ก็มานั่งพิจารณาตนเอง แล้วค้นพบว่าสาเหตุที่ใจท่านไม่หยุด
เพราะ “ชอบเผลอสติ” ท่านปรารภกับตัวเองว่า
“ดูก่อนจิต... แต่ก่อนเจ้าแนะนําเราว่า ประโยชน์อะไรเล่า
ด้วยการอยู่ครองเรือน จงออกบวชเสียเถอะ แต่มาบัดนี้ ไฉน
เจ้าจึงพัวพันอยู่ในกามคุณ เพื่อแสวงหาภพใหม่อีกเล่า”
“ดูก่อนจิต... แต่ก่อนเจ้าเคยแนะนำาเราว่า จงอุตส่าห์เจริญ
สมาธิภาวนา จะได้บรรลุวิชชาในพระพุทธศาสนา แต่มาบัดนี้
เหตุไฉนเจ้าจึงได้ละทิ้งสมถวิปัสสนา มัวแต่เกียจคร้านอยู่เล่า”
“ดูก่อนจิต....เจ้าได้อ้อนวอนเราให้สละหมู่ญาติและมิตร
สหายรักใคร่ สละความอาลัยในชีวิต แต่มาบัดนี้ ทำไมเจ้าจึง
ห่วงใยอาลัยร่างกายอันเน่าเปื่อย คร่ำครวญถึงญาติมิตรอัน
เป็นที่รักเล่า”
“ดูก่อนจิต...เจ้าได้แนะนำเราในครั้งก่อนว่า จงเป็นผู้มัก
น้อย สันโดษ สงบระงับ แต่มาบัดนี้ เจ้ากลับมีความมักมาก พา
เราไปสู่ตัณหา ซึ่งเป็นกองแห่งทุกข์เล่า”
เมื่อท่านตั้งสติสอนตนเอง แล้วท่านก็พูดกับตัวเองว่า
“ดูก่อนจิต... เจ้าผู้ชอบเที่ยวไปในที่ไกล บัดนี้เราจะไม่ทำ
ตามค่าของเจ้าแล้ว แต่ก่อนเรายอมปฏิบัติตามถ้อยคําของเจ้า