ข้อความต้นฉบับในหน้า
5
รั ก แ ท้ . . . แ ก น้ อ ง เ ณ S
ลูก
มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนขึ้นไปบิดลูกมะพร้าว พี่เณรอยู่ข้างล่าง
ถือกระสอบรออยู่ พอลูกมะพร้าวหล่นลงมาก็จะเอากระสอบรับ
พอเพื่อนบิดลูกมะพร้าว มะพร้าวแก่มันตกลงมาพร้อมๆ กัน 5-
พี่เณรหลบแทนไม่ทัน ต้องทิ้งกระสอบแล้วเอามือปิดหัว
ไว้ ยังดีที่มะพร้าวไม่หล่นลงหัว ไม่ยังงั้นมีหวังหัวแตกหรือไม่ก็
สลบเหมือดไปเลย จึงบอกกับตัวเองว่า “เข็ดแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว”
บิณฑบาตมาได้เท่าไหร่ก็พอใจแค่นั้น
ตอนออกไปรับบาตรในขณะที่ให้พรนั้น พี่เณรมีความคิด
อย่างหนึ่งว่า “พรที่เราให้โยม เรายังแปลไม่ออกเลย แล้วญาติ
โยมจะเข้าใจได้อย่างไร?”
พี่เณรจึงตั้งใจว่าจะต้องเรียนภาษาบาลีให้ได้ ปกติแล้วพี่
เณรจะท่องคำให้พรและมนต์บทต่างๆ ได้คล่องปากจำได้ขึ้นใจ
ถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ลืม การท่องบทสวดมนต์ในตอนกลางคืน เรา
จะจุดเทียนไขดูหนังสือ เพราะที่วัดยังไม่มีไฟฟ้า แต่เทียนไขก็
หายาก ส่วนใหญ่จะจุดธูปดูหนังสือมีไฟแดงๆ ตรงปลายธูป
พอที่จะเห็นตัวหนังสือได้ ใช้ธูปดีอยู่อย่างคือเวลาลมพัดไม่ดับ
เหมือนเทียนไข แต่ก็ต้องคอยเป่าขี้ธูปอยู่เรื่อยๆ ท่องไปก็เป่าไป
ถ้าวันไหนมีญาติโยมมานิมนต์ไปเจริญพระพุทธมนต์ใน
งานพิธีต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ วันนั้นก็จะได้ปัจจัยมาซื้อสบู่
ยาสีฟัน และของจำเป็นต่างๆ เพราะที่วัดของพี่เณรนั้นลำบาก
จริงๆ ปัจจัยสี่ทุกอย่างต้องแสวงหาเอง แม้แต่น้ำจะดื่ม