ข้อความต้นฉบับในหน้า
2
พี่ เ ณ ร ส อ น น้ อ ง 9
วันวาน วันนี้ วันพรุ่ง และวันต่อๆ ไป ดวงอาทิตย์ดวงเดิม
ก็ยังคงส่องแสงอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ยังคอยให้ความสว่าง
แก่สรรพชีวิตให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างอบอุ่น เช้า....สาย
...บ่าย...ค่ำ จากวันเป็นอาทิตย์...เป็นเดือน...เป็นปี...เป็นศตวรรษ
ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงหมุนเวียนเปลี่ยนไป ไม่มีอะไรเที่ยงแท้
แน่นอน
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยสายฝนพรำ....พี่เณรอยู่เชียงใหม่
ฝนตกเกือบทุกวันเลยล่ะ ทำให้บรรยากาศบนยอดเขาสูง แสน
จะชุ่มฉ่ำาเย็นสบาย หันมองไปรอบตัวจะเห็นป่าไม้เขียวขจี ป่า
สนที่ขึ้นกันแน่นขนัดกำลังแตกยอดอ่อน แย่งกันรับแสงอรุณ
ในยามเช้าให้ความรู้สึกที่สดชื่นเบิกบานอุรา คำว่า “สดชื่นเหมือน
ยืนอยู่บนเนินเขา” เห็นจะจริงเหมือนกันนะ พี่เณรได้สัมผัสชีวิต
ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร รู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างมีความ
สุขเสียจริง
เช้ามืดกับความสดชื่นของทุกๆ วัน....พี่เณรและเพื่อนๆ ตื่น
ขึ้นมาสวดมนต์ทำวัตรเช้าตอนตีสี่ครึ่ง ต้องเดินฝ่าเมฆหมอกไป
ยังห้องปฏิบัติธรรม ซึ่งห่างจากกุฏิที่พักไปประมาณ ๕๐ เมตร
ให้ความรู้สึก
ละอองหมอกที่ปลิวมาปะทะประพรมร่างกาย
แปลกใหม่ ราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนทะเลหมอกอย่างนั้นแหละ
นั่งธรรมะ สวดมนต์ อธิษฐานจิตเสร็จประมาณหกโมงสิบ
ห้า บูชาพระแล้วจึงเดินออกจากห้องปฏิบัติธรรม มองไปรอบๆ
ดอย จะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน มีเมฆหมอกปกคลุมไปทั่ว เป็น