ข้อความต้นฉบับในหน้า
ろ
ก า ไ ร แ ห่ ง 0 5 0
พี่เณรจําได้ว่า การปฏิบัติธรรมในช่วงปิดเทอม เริ่มมีเป็น
ครั้งแรกตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ปีแรกเรานั่ง
ธรรมะกันที่อาศรมบัณฑิต หรือที่เราเรียกกันเล่นๆ ว่า “ดอย
เตี้ย" ที่เรียกว่าดอยเตี้ยเพราะว่าไม่ได้ไปนั่งบนภูเขา แต่นั่งอยู่
ที่วัดในห้องโถงที่เปิดแอร์เย็นสบายคล้ายๆ กับบรรยากาศบน
ดอย นั่งปฏิบัติธรรมกันต่อเนื่อง ๗ วัน ตอนนั้นพี่เณรยังใหม่อยู่
นั่งไม่ค่อยได้ผลเท่าไร เนื่องจากตั้งใจมากไปหน่อยเลยตึงๆ
หน้าผาก แต่บางรอบที่ปล่อยวาง ไม่ได้ตั้งใจมากก็ปรากฏแสง
สว่างขึ้นมาจากกลางท้อง ไม่นานก็หายไป แต่พอใจสบายๆ กลาง
กายภายในก็สว่างขึ้นมาอีก
ปีถัดมาเราได้มานั่งธรรมะในอาคารภาวนา
ปีนี้ได้มี
โอกาสนั่งสมาธิมากหน่อยประมาณ ๑ เดือน พอนั่งได้สัก ๒
อาทิตย์ก็เริ่มได้ผล ใจที่ชัดสายฟุ้งซ่านก็ค่อยๆ หยุดนิ่ง มันค่อยๆ
หยุด ไม่ใช่ฮวบฮาบหยุดเลยทีเดียว แต่มันค่อยๆ หยุด ค่อยๆ
นิ่ง พอใจสงบนิ่งก็ไม่ได้คิดอะไร ตรงกลางกายมีความรู้สึกว่า
เปิดกว้าง แล้วเหมือนมีอะไรดูดเราเข้าไปข้างใน เคลื่อนเข้าไป
เรื่อยๆ เพลินๆ สักครู่พี่เณรก็เห็นดวงธรรมใสสว่างผุดขึ้นมา
จากตรงกลาง ดวงธรรมผุดขึ้นมาแล้วก็ขยายใหญ่ขึ้น ดวงใหม่
ก็ผุดซ้อนขึ้นมาแทนที่ใสกว่าเดิม สว่างกว่าเดิม ผุดเร็วขึ้นไป
เรื่อยๆ ตอนนี้พี่เณรเหมือนถูกดูดเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดก็เห็นองค์พระผุดซ้อนขึ้นมาในกลางดวงใส แล้ว
ขยายใหญ่โตขึ้นไปเรื่อยๆ ใหญ่เท่าตัวเรา ใหญ่กว่าตัวเรา ขยาย