ข้อความต้นฉบับในหน้า
9
แ ก่ ผู้ มี พ ร ะ คุ ณ
คนไหนที่เติบโตมาคู่กับไม้เรียว เมื่อเขาประสพกับเรื่องอะไรที่
ตกลงกันไม่ได้ ก็จะใช้วิธีการรุนแรงเข้าตัดสิน
หลังจากสิ้นสุดการอบรมแล้ว ทำให้พี่เณรได้ข้อคิดอะไร
หลายอย่าง สิ่งหนึ่งที่พี่เณรได้ข้อคิดก็คือ การฝึกผู้อื่นเราต้อง
ฝึกตัวเองให้ดีพร้อมที่จะเป็นแบบอย่างได้
อย่างเรื่องง่ายๆ
เช่น การถอดรองเท้าให้เป็นระเบียบ การพับจีวร พับผ้าห่ม
เครื่องนอนให้เป็นระเบียบ การรักษาความสะอาดต่างๆ เหล่านี้
เราต้องฝึกตัวเองให้ดีก่อน
พี่เณรโชคดีที่พระพี่เลี้ยงได้ฝึกอบรมหล่อ หลอม และถูก
จ่าจี้จ้าไชเป็นประจํา จนสิ่งเหล่านี้ได้ซึมซับเป็นนิสัย ไม่ว่าจะ
ไปที่ไหน ถึงไม่มีที่วางรองเท้า เวลาถอดรองเท้า พวกเราก็ยัง
ถอดกันเป็นแถวเป็นแนว แม้การพับจีวรหลังใช้แล้ว หรือการ
พับผ้าห่ม เครื่องนอน หลังตื่นจำวัด เราทำกันจนเคยชินเป็น
ปกติ สมัยก่อนถึงกับมีการประกวดกันทีเดียวว่า กุฏิไหน
พับผ้าได้สวยที่สุด
เมื่อพี่เณรมาเป็นพี่เลี้ยงยุวๆ ก็นำสิ่งเหล่านี้มาฝึกเขา แล้ว
พี่เณรก็ได้ประจักษ์กับตัวเองว่า การจะฝึกใครสักคนให้เป็นผู้มี
ความรู้คู่คุณธรรมนั้นมิใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะผู้ที่เราจะฝึกนั้นยัง
อยู่ในวัยเด็กด้วย ยิ่งต้องอาศัยความอดทน ความทุ่มเทและเสีย
สละอย่างมาก เพราะต้องคอยไซ พูดแล้วก็ต้องพูดอีก
ก่อนจำวัดต้องเดินไปตรวจตามกลด ดูว่าใครไม่ห่มผ้าห่ม หรือ
ห่มผ้าห่มแล้ว แต่นอนดิ้นผ้าห่มหลุด ก็ต้องไปห่มผ้าให้ใหม่