ข้อความต้นฉบับในหน้า
๘ ๘
เรองนเปนเรองทตอ
ที่ต้องระมัดระวังทั้งพระทั้งเณร ถ้าไม่ระมัดระวัง
พอได้ลาภสักการะมาก็จะภูมิใจอยู่แค่นี้ จะใช้สอย กินอยู่ ขบฉัน
ก็สะดวกบริบูรณ์ไปทุกอย่าง หน้าตาผิวพรรณก็ผ่องใส ถ้าเราอิ่มใจอยู่
แค่นี้ การฝึกตนของเราก็จะไปไม่ถึงไหน วนเวียนอยู่แค่ความสะดวก
สบายที่เรียกร้องจากญาติโยมได้อยู่เรื่อย ๆ โดยไม่รู้จักประมาณ
แต่สิ่งที่พวกเราอาจลืมไปก็คือ ความสบายจะเป็นมิตรกับ
เราในตอนแรก แต่จะเป็นศัตรูร้ายกับเราในภายหลัง เพราะ
เมื่อบวชไปเรื่อย ๆ พรรษาก็มีแต่สูงขึ้น ๆ แต่เนื่องจากตลอดเวลา
ที่อยู่ในวัดก็ไม่ได้ตั้งใจฝึกตัวเท่าไร เพราะตั้งแต่บวชวันแรกก็ตั้งเป้า
แค่ว่าจะบวชไปเรื่อย ๆ บ้าง หรือจะเอาเท่านั้นเท่านี้ประโยคบ้าง พอได้
อย่างนั้นตามที่นึกแล้ว ก็เลยหยุดอยู่แค่นั้น เพราะว่าลาภสักการะก็มี
แล้ว ไม่อดไม่อยาก ก็เลยไม่ขวนขวายฝึกตนต่อไปอีก ท้ายที่สุดพอ
พรรษาสูงขึ้น แต่ไม่ได้ฝึกทำงานให้เป็นชิ้นเป็นอัน ก็จะเกิดปัญหาตาม
งานของหมู่คณะไม่ทัน แล้วก็จะเกิดอาการเคว้งคว้างจนกระทั่งสึกหา
ลาเพศไป นี่คืออาการติดลาภสักการะ ซึ่งเป็นแค่กิ่งใบ ยังไม่ถึงสะเก็ด
ไม่ถึงเปลือกแห่งการประพฤติพรหมจรรย์ด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้น อย่าตั้งเป้าหมายการศึกษาเพียงแค่ได้ ๙ ประโยค
ต้องตั้งเป้าว่า หลังจากได้ ๙ ประโยค แล้วจะนำมาทำอะไรได้บ้าง
(๑๔) ชี วิ ต ส ม ณ ะ (ฉบับมหาปวารณา)
www.kalyanamitra.org