ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อปวารณากันเสร็จแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไปเดินธุดงค์แสวงหา
ที่วิเวก ตามป่าเขา ห้วยหนองคลองบึง เรือนว่าง โคนไม้ ลอมฟาง ให้กาย
วิเวก จิตวิเวก อุปธิวิเวก ทีนี้เมื่ออยู่ไกลหูไกลตาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หรือพระอุปัชฌาย์ บางครั้งพลาดพลั้งเรื่องพระธรรมวินัยโดยรู้เท่า
ไม่ถึงกาล เจอกันก็จะได้แนะนำกันได้ เพราะหากทำพลาดในเพศสมณะ
จะมีวิบากกรรมต้องไปอบาย หัวโล้น ๆ ตัวผอม ๆ เปลือยกายอยู่ใน
อบายเต็มไปหมดเลย
มหาปวารณาในยุคปัจจุบัน
ໆ
ยุคนั้นเขาเตือนด้วยความรักและปรารถนาดีกันจริง ๆ แต่ต่อมา
ก็ทำปวารณากันเป็นธรรมเนียมสืบทอดกันเรื่อยมา ก็ยังดีที่ยังทำ
กันอยู่ และปวารณากันเป็นภาษาบาลีก็เลยไม่รู้ว่าพูดอะไร เมื่อไม่รู้
เรื่องเวลาเตือนกันก็จะหงุดหงิด ขุ่นมัว พอหงุดหงิดก็ขยายจากใจมา
สู่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อแล้วออกที่ใบหน้าและดวงตา คนเตือน
เห็นเข้าก็ตกใจ ไม่กล้าเตือนอีก เพราะถ้าเป็นอย่างนี้สู้อยู่เฉย ๆ ดีกว่า
คนเตือนนี่ เสี่ยงนะ ทีนี้เราปวารณากันแล้วเราจะเอาอย่างไร จะทำตาม
ธรรมเนียมปฏิบัติที่เขาสืบทอดกันมาสองพันกว่าปี หรือนอกจากเป็น
ธรรมเนียมแล้ว เราทำกันจริง ๆ เลยเหมือนในสมัยพุทธกาล
เพราะพระศาสนาตอนนี้ล่อแหลม กำลังต้องการทีมเวิร์คของผู้รัก
พระศาสนาที่จะช่วยกันฟื้นฟูคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๑๙๔ ชี วิ ต ส ม ณ ะ (ฉบับมหาปวารณา)
www.kalyanamitra.org