ข้อความต้นฉบับในหน้า
ถูกหลักวิชชาของบัณฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อน บุญนี้จะเกิดขึ้น
กับเราและโยมพ่อโยมแม่ บรรพบุรุษ หมู่ญาติ ตลอดจนสรรพสัตว์
ทั้งหลายไปด้วย
ปวารณากันแล้ว อย่าให้เป็นเพียงธรรมเนียม
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของพรรษา เราได้ปวารณากันแล้วก็ขอให้
ทำอย่างที่เราได้ตั้งใจปวารณา อย่าทำแค่ตามธรรมเนียม พอถึงวัน
มหาปวารณาเราก็มาปวารณากันตามธรรมเนียม แต่พอหลังจากวันนี้
ไปแล้ว เพื่อนสหธรรมิกมาเห็นเราประพฤติบกพร่องและแนะนำเรา
เราก็อย่าไปโกรธ อย่าไปขุ่นเคืองเขา
บ
ถ้าหากห้ามความโกรธความขุ่นมัวไม่ได้ เพราะว่าเรายังมีทิฏฐิ
มานะอยู่ในตัว ก็ให้ลดมานะทิฏฐิมาอยู่ในระดับที่ฟังได้ แล้วมันไม่ล้น
ออกมาทางปากโต้ตอบเขาไป หรือขยายออกมาทางกิริยาอาการ ทาง
ระบบประสาทกล้ามเนื้อ เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่า เราไม่พึงพอใจ อย่าให้
ถึงขั้นขนาดนั้น ให้อยู่ในระดับที่เราข่มใจได้ ที่เรียกว่า “ทมะ” คือ
แม้เราจะขุ่นมัวขัดเคืองก็ชมเอาไว้ ให้มันอยู่ ไม่ให้มันล้นออกมา
แล้วช่วงไหนที่ใจสบาย ก็มาพิจารณาดูในสิ่งที่เพื่อนสหธรรมิกเขา
ตักเตือนว่า เขาตักเตือนโดยธรรมไหม ถูกต้องไหม เราเป็นจริงอย่าง
นั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเราไม่เป็นจริง เป็นความเข้าใจผิดพลาดคลาด
๒๒๔ ชี วิ ต ส ม ณ ะ (ฉบับมหาปวารณา)
www.kalyanamitra.org