ข้อความต้นฉบับในหน้า
บังคับปกครองกันอยู่ จนกระทั่งไปถึงนิพพานไม่ถอดกายโน่น ก็ยัง
อยู่ในกรอบวิชชาแต่ขยายกว้างขึ้น ละเอียดขึ้น แปลว่ายังไม่ได้หลุด
พันกันอย่างแท้จริงเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ในบทเทศน์ของท่านว่า เรื่อง
การปราบมารนั้น ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล นิพพาน
ถอดกาย ไม่มีใครรู้เรื่องเลย นี่ท่านกล้ายืนยันนี้ถือว่าเสี่ยงมากต่อการ
กล่าวอวดอุตริมนุษยธรรม แต่ว่าเป็นสิ่งที่ท่านค้นพบขึ้นมา บอกให้เฉพาะ
ผู้มีบารมีแก่ ๆ มีธาตุธรรมแก่ ๆ มีธาตุธรรมพิเศษได้รับทราบ ใต้ฝาก
ประโยคนี้ไว้ในบทเทศน์ สำหรับผู้ที่มีธาตุธรรมพิเศษซึ่งอยู่ในยุคนั้น
หรือผู้ที่มาในภายหลังที่ตกขบวนไม่ทันท่านนั้น
แต่ผู้ที่มีธาตุ
คนอื่นฟังอาจจะฟังผ่านหรือคิดด้วยจิตที่เป็นอกุศล
ธรรมพิเศษจะมีความคิดแตกต่างจากบุคคลเหล่านั้น ฟังพิจารณา
ใคร่ครวญแล้วก็จะลงมือปฏิบัติเพื่อที่จะไปศึกษาเรียนรู้ในสิ่งที่ท่าน
ได้กล่าวเอาไว้นั้นเป็นจริงแค่ไหน และในที่สุดก็จะมีผู้ที่มีธาตุธรรม
มีบารมีแก่ ๆ เป็นพิเศษนี้จะรับทราบได้ว่า สิ่งที่ท่านกล่าวนั้นเป็น
ความจริง แปลว่าไม่ไปถึงที่สุดแห่งธรรมนั้นไม่ได้ ถ้ายังไปไม่ถึงก็ยัง
ต้องเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารทั้งสิ้น หมายถึงว่า ยังไม่บริสุทธิ์
อย่างสมบูรณ์ที่แท้จริง แต่การจะไปถึงตรงนั้นได้ จะไปตามลำพังไม่
ได้ มันต้องไปกันเป็นทีม และทีมนั้นต้องมีความรู้ ความบริสุทธิ์ ความ
ละเอียดเท่าเทียมทันทั้งทีม
www.kalyanamitra.org
ภารกิจปราบมาร ๒๗๕