พยาบาทและวิธีแก้ไขในสมาธิ MD 203 สมาธิ 3  หน้า 41
หน้าที่ 41 / 111

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้กล่าวถึงอารมณ์พยาบาทที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันและผลกระทบต่อการทำสมาธิ พยาบาทเป็นอุปสรรคที่ทำให้ใจไม่สงบ ซึ่งจำเป็นต้องรู้จักและกำจัดเพื่อช่วยในการเข้าถึงความสุขจากสมาธิ พระพุทธองค์ได้เปรียบเทียบพยาบาทเหมือนโรคที่ทำให้ผู้มีอาการรู้สึกทุกข์และกระสับกระส่าย แม้ว่าจะได้รับสิ่งดี ๆ ก็ไม่สามารถรู้สึกถึงความสุขได้ดังนั้นการเข้าใจพยาบาทจึงสำคัญในการพัฒนาใจให้สงบ

หัวข้อประเด็น

-ลักษณะของพยาบาท
-ผลกระทบของพยาบาทต่อสมาธิ
-วิธีการแก้ไขพยาบาทในการทำสมาธิ
-บทบาทของพระพุทธองค์ในเรื่องพยาบาท

ข้อความต้นฉบับในหน้า

บทที่ 3 พยาบาทและวิธีแก้ไข ในแต่ละวันเรามักจะมีหลากหลายอารมณ์ที่วิ่งผ่านเข้ามาในใจของเรา ในหลายๆ อารมณ์นั้น หากเราสังเกตให้ดี จะพบว่าหลายครั้งในแต่ละวันที่เราจะมีเรื่องไม่พอใจผ่านเข้ามา ความไม่พอใจนี้มีตั้งแต่ ความไม่พอใจ ขัดใจ ตัวเอง เพื่อนร่วมงาน พ่อ แม่ พี่ น้อง ตลอดจนสภาพดินฟ้าอากาศ สภาพแวดล้อม สัตว์ สิ่งของต่างๆ ดูเหมือนมีหลากสิ่งที่คอยทำใจของเราให้คุกรุ่นอยู่บ่อยๆ สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้หลายๆ ครั้ง ที่เรามานั่งหลับตาทำสมาธิ กลับพบภาพที่เราไม่ปรารถนา เสียงที่ไม่ปรารถนา อารมณ์ขุ่นๆ ที่ยังค้าง อยู่ติดมา ทำให้การนั่งของเราผ่านไปอย่างทุกข์ทรมาน เหมือนเราต้องแบกอะไรบางอย่างไว้ แทนที่จะ เป็นการผ่อนคลายและเข้าถึงความสุขจากสมาธิ ดังนั้น เราจึงควรที่จะมาทำความรู้จักกับอุปสรรคในการ ทำสมาธิตัวนี้ คือ พยาบาท เป็นนิวรณ์หนึ่งในนิวรณ์ทั้ง 5 ประการ เพื่อที่เราจะได้กำจัดอุปสรรคตัวนี้ออกไป อันจะช่วยส่งเสริมให้ใจของเราหยุดนิ่งอย่างเบาสบายได้มากและรวดเร็วยิ่งขึ้น 3.1 ลักษณะของพยาบาท พยาบาท แปลว่า โทษเครื่องทำความพินาศ คือ ความคิดร้าย ความรู้สึกไม่ชอบใจสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวงได้แก่ความอุ่นใจ ความขัดเคืองใจ ความไม่พอใจ ความโกรธ ความผูกโกรธ ความเกลียด ความผูก ใจเจ็บ การมองในแง่ร้าย การคิดร้าย มองเห็นคนอื่นเป็นศัตรู ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้ใจกระสับกระส่ายไม่ เป็นสมาธิ และจัดเป็นไฟประเภทหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเผาลนจิตใจของชาวโลกให้เดือดร้อนกระวนกระวาย ว่า กําลังกาย”2 พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงความพยาบาทว่าเป็นดุจโรค ที่ทำให้ผู้ที่เป็นโรคกระสับกระส่ายเป็นทุกข์ “เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงเป็นผู้มีอาพาธ ถึงความลำบากเจ็บหนัก บริโภคอาหารไม่ได้ และไม่มี พระอรรถกถาจารย์ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เหมือนอย่างคนกระสับกระส่ายเพราะโรคดี แม้เมื่อ เขาให้น้ำผึ้งและน้ำตาลกรวดเป็นต้น ก็ไม่ได้รสของของหวานเหล่านั้น ย่อมบ่นว่าขม ขม เท่านั้น เพราะ 1 พ.อ. ปิ่น มุทุกันต์, พุทธศาสตร์ ภาค 2, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2535), หน้า 503. ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค, มก. เล่ม 11 ข้อ 126 หน้า 321. * ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค, มก. เล่ม 11 หน้า 457. 32 DOU สมาธิ 3 อุ ป ส ร ร ค แ ล ะ วิ ธี แก้ ไ ข ใ น ก า ร ทำสมาธิ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More