วิธีแก้ไขการหายใจและนิมิตในสมาธิ MD 203 สมาธิ 3  หน้า 103
หน้าที่ 103 / 111

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เสนอวิธีการแก้ไขในกรณีที่เราเผชิญกับอุปสรรคในการหายใจและการเห็นนิมิตในช่วงการทำสมาธิ โดยให้คำแนะนำในการทำใจให้สบายเพื่อลดอาการหยาบของลมหายใจ การกำหนดจิต ณ จุดศูนย์กลางกาย และการรับรู้ถึงอาการเมื่อใจหยุด นอกจากนี้ยังอธิบายเกี่ยวกับการเห็นนิมิตและความแตกต่างของภาพที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติ อย่างเช่น ภาพที่ทำให้เกิดความปีติ และภาพที่สร้างความวิตกกังวล โดยแนะนำว่ายังไงก็อย่ายึดติดกับนิมิตที่เกิดขึ้น เพราะอาจทำให้การปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า จึงควรรู้เท่าทันและทำตามแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้การไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

หัวข้อประเด็น

-วิธีแก้ไขการหายใจ
-การเห็นนิมิตในสมาธิ
-ความเข้าใจเกี่ยวกับนิมิต
-แบบการทำสมาธิ
-อุปสรรคในการปฏิบัติธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

7.2.3 วิธีแก้ไข 1. ถ้าหากเราไม่สนใจ ลมหายใจที่รู้สึกว่าหยาบก็จะหายไป บางครั้งลมหายใจมาพ้องกันบ้างก็ ไม่เป็นไร ทำใจเฉยๆ สบายๆ ลมก็จะค่อยๆ ละเอียดไปเอง แล้วในที่สุดเราก็จะลืมเรื่องการหายใจ 2. กำหนดจิตไว้ ณ ที่สุดของลมหายใจ ซึ่งก็คือศูนย์กลางกาย ไม่ไปตามลมหายใจที่เข้าออก 3. ถ้าหากลมจะหยุด ไม่ต้องกลัวตาย เพราะนั่นเป็นอาการที่แสดงว่า ใจกำลังจะหยุด ลมหยุด เพราะ ใจหยุด ดวงธรรมกำลังจะเกิดขึ้น 7.3 เรื่องการเห็นนิมิต 7.3.1 ลักษณะนิมิตเลื่อนลอย เมื่อทำไปเรื่อยๆ บางท่านเห็นภาพนิมิตเกิด เกิดเป็นเรื่องเป็นราวก็มี ไม่เป็นเรื่องเป็นราวก็มี หรือ บางทีมีภาพเกิดขึ้น เป็นภาพเหตุการณ์ต่างๆ แล้วเป็นภาพที่ชัดเจนทีเดียว แจ่มแจ้ง คล้ายๆเป็นญาณทัส สนะที่เกิดขึ้น บางท่านพอเห็นดวงหรือองค์พระนิดๆ หน่อยๆ แล้วภาพมันแฉลบเป็นภาพเยอะแยะขึ้นมา ไป ติดใจผูกพันกับภาพเหล่านี้ นึกว่าเป็นจริงเป็นจัง แล้วก็ไปคิดเองสารพัด ผลการปฏิบัติธรรมก็ไม่ก้าวหน้า สุขจากสมาธิก็ไม่ได้ด้วย แล้วยิ่งทำให้อัดอั้นตันใจไปเล่าให้ผู้อื่นฟังต่อ ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ 7.3.2 ความเข้าใจเกี่ยวกับนิมิต การปฏิบัติสมาธิในโลกนี้ ขณะนี้มีอยู่ 3 แบบ ใน 40 วิธี แบบที่ 1 ส่งจิตออกข้างนอก แบบที่ 2 ส่งจิตเข้าสู่ภายใน แบบที่ 3 นำจิตเข้าสู่กลาง กลางตัวไปเรื่อยๆ แบบที่ 1 ที่ส่งจิตออกภายนอกนั้น มักจะพบภาพนิมิตที่เลื่อนลอย บางครั้งเป็นภาพที่นำมาซึ่ง ความปีติ เป็นภาพพระพุทธรูปบ้าง ภาพแสงสว่างบ้าง ภาพดวงบ้าง ภาพของเทพบุตร เทพธิดาบ้าง บางครั้ง ก็พบภาพที่ไม่น่าดู นำมาซึ่งความวิตก ความสะดุ้งหวาดเสียว กลัว คือเห็นภาพที่น่าเกลียด น่ากลัว ตรงกันข้ามกับภาพที่สวยสดงดงาม นี่เป็นแบบที่ 1 หรือประเภทที่ 1 ซึ่งมีปฏิบัติกันอยู่ทั่วไปในโลกนี้ แบบที่ 2 คือที่นำจิตเข้ามาสู่ภายใน ตั้งอยู่ภายในตัว แบบนี้ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้รู้จักว่า ห้ามส่งจิตออกไปสู่ภายนอก เพราะว่าจะพบนิมิตที่เลื่อนลอย นิมิตต่างๆ เป็นของที่ไม่จริงแท้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนิมิตอะไรก็ตาม ถือว่าเป็นนิมิตที่เลื่อนลอย ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นทั้งสิ้น แบบนี้ปฏิบัติไป ใจก็ 94 DOU สมาธิ 3 อุปสรรค และวิธีแก้ไขในการทำสมาธิ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More