ความพยาบาทและวิธีการแก้ไข MD 203 สมาธิ 3  หน้า 42
หน้าที่ 42 / 111

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้กล่าวถึงความพยาบาทซึ่งเป็นอารมณ์ที่ทำให้จิตใจไม่มีความสงบและปิดกั้นความดีทั้งใหม่และเก่าจากการที่เราไม่สามารถปล่อยวางความโกรธได้ โดยที่เมื่อจิตเกิดพยาบาทขึ้น จะเป็นอุปสรรคในการนั่งสมาธิและแสดงถึงอาการที่ไม่ดีในชีวิตประจำวัน เช่น ความเกรี้ยวกราด เมื่อมีพยาบาทเกิดขึ้นจิตจะไม่สามารถรับความดีจากคนอื่นได้ด้วย เช่นเดียวกับการหลับตาเพื่อตัวเองไม่เห็นคนที่เกลียด ซึ่งกลับทำให้ไม่เห็นความดีจากคนอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงสาเหตุของพยาบาทว่าเกิดจากการกระทบกระทั่งทางจิตที่ทำให้เกิดโทสะหรือความขุ่นเคืองในใจ ทั้งนี้การปฏิบัติธรรมและการวางใจอาจจะเป็นวิธีการที่ช่วยในการแก้ไขปัญหานี้ได้ ในการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อเป็นสุขที่แท้จริง

หัวข้อประเด็น

- ความหมายของพยาบาท
- ผลกระทบของความพยาบาท
- สาเหตุของพยาบาท
- วิธีการแก้ไขความพยาบาท

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ตนกระสับกระส่ายด้วยโรคดี ฉันใด ผู้มีจิตพยาบาท ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ถ้าเป็นพระแม้อาจารย์และ อุปัชฌาย์ผู้หวังดีว่ากล่าวเพียงเล็กน้อย ก็ไม่รับโอวาท กล่าวว่าท่านทั้งหลายวุ่นวายเหลือเกิน เป็นต้น ลาสิกขาไป เขาไม่ได้รสของพระศาสนาประเภทสุขในฌาน เป็นต้น เพราะเป็นผู้กระสับกระส่ายด้วยความ โกรธ เหมือนบุรุษนั้นไม่ได้รสของของหวาน มีน้ำผึ้งและน้ำตาลกรวด เป็นต้น เพราะเป็นผู้กระสับกระส่าย เพราะโรคดี จึงเห็นความพยาบาทเหมือนโรค ด้วยประการฉะนี้ เราจะสังเกตได้ว่า เวลาเราขัดใจใคร เราอยากจะทำร้ายเขา แต่ยังทำไม่ทัน เพราะไม่มีช่องว่าง หรือไม่มีเครื่องมือ หรือไม่มีโอกาส จึงผูกใจแค้นไว้ว่า จะทำการแก้แค้นในวันข้างหน้า หรือผูกใจที่จะแก้แค้น อาการเช่นนี้เองเรียกว่า พยาบาท ซึ่งความพยาบาทนั้น จะมีการผูกใจมุ่งที่จะทำความฉิบหายให้เกิดแก่ คนอื่น ไม่ว่าจะทำให้เขาฉิบหายในชื่อเสียง บุตรภรรยาสามี ความสุข หรือแม้กระทั่งให้ฉิบหายจากชีวิต ก็ นับว่าเป็นพยาบาททั้งสิ้น ความพยาบาทนี้เองที่ปิดกั้นความดีไม่ให้เข้ามาสู่ตัวเรา ทั้งยังปิดกั้นความดีของเราไม่ให้ แสดงออกไปภายนอก พูดง่ายๆ คือปิดกั้นทั้งความดีใหม่และความดีเก่า ที่ว่ากั้นความดีใหม่นั้น เพราะเมื่อ พยาบาทเกิดขึ้นในใจแล้ว ใจเราจะอยู่ในสภาพพิการหรือชำรุด ไม่พร้อมที่จะรับความดี เหมือนตัวเราเป็นไข้ ไม่พร้อมที่จะรับรสอาหารที่น่าอร่อย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าก่อนนั่งสมาธิเราผูกพยาบาทใครไว้ เราก็จะรู้สึก ใจไม่ปลอดโปร่ง เวลานั่งแทนที่จะนั่งนึกภาวนาว่าสัมมาอะระหัง ก็ไปนึกถึงคำด่าเสียๆ หายๆ จนสะใจ บางที ก็นึกเป็นภาพถึงการได้ลงมือแก้แค้นจนอิ่มใจ แทนที่ใจจะเป็นสมาธิ บางทีกลับกลายเป็นภาพร้อนๆ ปรากฏ คุกรุ่นอยู่ในจิตใจ ที่ว่ากั้นความดีเก่า เพราะเมื่อพยาบาทเกิดขึ้นแล้ว เราก็ไม่สามารถแสดงอาการที่ดีๆ ออกไปได้ บางครั้งก็อาจแสดงอาการที่เสียหายออกไป เช่น อาการเกรี้ยวกราด อาการพูดกระแทกแดกดัน ประชดประชัน เป็นต้น และการผูกพยาบาทนี้เองไม่ใช่ว่าเราผูกพยาบาทใครบางคน ก็จะทำให้ใจของเราปิดกั้นความดี เฉพาะของผู้นั้นก็หาไม่ แท้ที่จริงเมื่อความพยาบาทเกิดขึ้นกับใจ ก็ทำให้ใจเราไม่พร้อมที่จะรับความดี ไม่ว่า จะมาจากใครๆ ทั้งสิ้น อุปมาเหมือนการที่เราเกลียดคนๆ นั้นแล้วหลับตาเสีย ความจริงเราอาจจะ ต้องการหลับตาเพื่อไม่ให้เห็นคนที่เราเกลียดเท่านั้น แต่การหลับตานั้นกลับทำให้เราไม่เห็นทั้งคนที่เรา เกลียดนั้นและคนอื่นๆ ที่เราไม่เกลียดไปด้วย 3.2 สาเหตุของพยาบาท ปฏิฆนิมิต เป็นเหตุเกิดของพยาบาท ปฏิฆนิมิต คือ การกระทบกระทั่งทางจิต เพราะจิตของคน บางคนเป็นเสมือนใจที่มีแผลปกติว่าแผล ถ้าใครกระทบกระทั่งหรือสะกิดเข้าหน่อยหนึ่งก็จะรู้ว่าเจ็บแสบเสียว เพราะมีแผลอยู่ จิตของคนเราที่ถูกพยาบาทเข้าครอบงำก็เหมือนกัน ถ้าใครพูดกระทบกระทั่งจิตเข้า ก็จะ รู้สึกไม่พอใจ แล้วเกิดความโกรธขึ้นมาได้ในทันที ตัวปฏิฆนิมิตนี้เองเป็นเหตุให้เกิดโทสะหรือพยาบาทขึ้น เพราะ บ ท ที่ 3 พ ย า บ า ท แ ล ะ วิ ธี แก้ไข DOU 33
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More