การปล่อยวางและความสว่างภายใน MD 203 สมาธิ 3  หน้า 104
หน้าที่ 104 / 111

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจวิธีการเห็นและปล่อยวางนิมิตในจิตใจ โดยเน้นไปที่ความสำคัญของการอยู่กับความสว่างภายในและการไม่ยึดติดกับนิมิตที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอก การไม่เกิดอารมณ์ตอบสนองต่อภาพนิมิต และการปล่อยวางความรู้สึกเพื่อค้นพบความสุขที่แท้จริงในจิต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยอมรับธรรมชาติของชีวิตที่ได้รับการสั่งสอนว่า ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทำให้การตระหนักรู้ในความไม่เที่ยงของสิ่งทั้งปวงเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงความสว่างภายในอย่างแท้จริง โดยไม่ควรยึดมั่นหรือลุ่มหลง ในการปฏิบัติภาวนา

หัวข้อประเด็น

- การปล่อยวาง
- ความสว่างภายใน
- การไม่ยึดติดนิมิต
- วิธีการพิจารณาจิต
- การมีสติและปัญญาในชีวิตประจำวัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

จะปล่อยวางเข้าไปสู่ภายใน พบความสว่างภายใน พบดวงสว่างภายใน นิมิตอะไรเกิดขึ้นก็ปล่อยวางหมด ไม่สนใจ เอาแต่ความสว่างภายใน จิตมีพลัง มีความสุขสดชื่น มีสติ มีปัญญามากกว่าที่ส่งจิตออกสู่ภายนอก ไม่พบนิมิตที่เลื่อนลอย แต่เมื่อพบนิมิตจริงๆ ก็ไม่รู้จัก อยู่ภายใน ที่ว่าเป็นนิมิตเลื่อนลอยไปหมด พวกนี้เมื่อ จิตถอนขึ้นมาแล้วก็พิจารณา ปลดปล่อยวางสังขารทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ ด้วยการยกใจขึ้นสู่ไตรลักษณ์ พิจารณาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็เสื่อมสลาย เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สิ่งทั้งหลาย ทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น แม้กระทั่งธรรมภายในก็ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น ปล่อยวางหมด พอปล่อยวางแล้ว ก็ได้ ความสว่าง เป็นสุขอยู่ในความสว่างจิตสะอาดบริสุทธิ์หมดจด จนกระทั่ง มีความรู้สึกว่า ไม่ติดอะไรเลย ในโลกนี้ไม่ติดอะไรเลยในโลกทิพย์ไม่ติดอะไรเลยในภพทั้งสาม แล้วก็เหมาเข้าใจตัวว่า ชาตินี้เป็นชาติที่สุดแล้ว นี่คือแบบที่สองที่ประพฤติปฏิบัติกันอยู่ในโลกนี้ 7.3.3 วิธีแก้ไข สิ่งที่ควรจะทำเมื่อภาพเหล่านี้เกิดขึ้น ซึ่งเรียกว่านิมิตลวง แต่บังเอิญมันถูกต้อง แต่ก็ยังลวงคือ 1. อย่าไปติดใจ เพราะถ้าเราไปติดภาพนิมิตเลื่อนลอย เดี๋ยวมันก็จะอยู่แค่นั้น มันไม่ไปไหน ยิ่งไป สนใจมันมากเข้า เดี๋ยวดับหายไปเลย พอหายไปเราก็จะเสียดายขึ้นมาเสียอีก 2. อย่าไปติดตาม เฉยๆ ซะ ภาพเหล่านี้จะได้หายไป โดยให้ทำเฉยๆ ดูไปเรื่อยๆ เหมือนดูทิวทัศน์ เหมือนเรานั่งรถดูทิวทัศน์ ดูท้องฟ้า ดูหมู่เมฆ ดูภูเขา ผู้คน แม่น้ำทะเลอะไรอย่างนั้น เราก็ดูไปเรื่อยๆอย่าง สบายๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น ที่สำคัญตรงนี้แหละโดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น ถ้าทำได้อย่างนี้เดี๋ยวดี จะ ก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นเรื่องเป็นราวเราก็ดูเฉยๆ แต่อย่าไปมีอารมณ์ร่วม อย่าไปมีคำถามในใจ อะไร จริงหรือ ไม่จริง มาจากไหน มาทำไม มาอย่างไร อย่าไปตั้งคำถาม มันเป็นภาพนิมิตเลื่อนลอยที่เกิดขึ้น ในช่วงที่ใจ เริ่มหยุดเริ่มนิ่งในระดับหนึ่ง แต่ว่ายังไม่ใช่ของจริงของจังอะไร ไม่ต้องไปแสวงหาคำตอบ ให้ดูไปเฉยๆ รู้แล้ว ไม่ชี้ ดูอย่างเดียว อย่าไปมีอารมณ์ร่วมด้วย ดูธรรมดาๆ ด้วยใจที่เป็นปกติ ไม่มีอารมณ์ยินดียินร้ายเลย อารมณ์เป็นกลางๆ เฉยๆ จะเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นสิ่งของอะไรก็ตาม ดูไปเฉยๆ 7.4 เห็นนิมิตนอกตัว 7.4.1 ลักษณะนิมิตนอกตัว เห็นภาพนิมิตดวงแก้ว องค์พระ หรือนิมิตอื่นๆ เช่น ความสว่าง ดวงดาว ดวงอาทิตย์ ปรากฏอยู่ ตรงหน้าระดับสายตา หรือ รู้สึกว่าเห็นแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน แต่ไม่ใช่ภายในตัว บทที่ 7 อุ ป ส ร ร ค ต่าง ๆ และวิธีแก้ไข DOU 95
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More