ข้อความต้นฉบับในหน้า
1. บางคนรู้ว่านั่งสมาธิแล้วดี จึงตั้งใจมากเกินไป ทำให้ไม่สบาย เป็นการบังคับใจ
2. บางคนคุ้นเคยกับการเอาลูกนัยน์ตากดลงไปดูในท้อง เพราะว่ารักษากฎเกณฑ์มากเกินไปว่า
ฐานที่ 7 อยู่กลางท้อง จึงต้องทำอย่างนี้ ผิดจากนี้มีความรู้สึกว่าไม่ใช่ แต่วิธีการมองทำไม่เป็น จึงกดลูก
นัยน์ตา ทำให้ตึงเครียดขึ้นในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ พอตึงเครียดเข้า นั่งก็เมื่อยไม่มีความสุข เลิก
จากทำสมาธิก็ไม่สบาย เหนื่อย เมื่อย ยิ่งได้ยินคนอื่นเขานั่งแล้วได้ผล ยิ่งกลุ้มใจ บางครั้งก็น้อยใจ แต่ก็ยัง
ทำอยู่ด้วยวิธีการเดิมเกร็งๆ เครียดๆ หรือ บางคนเห็นนิมิตดวงแก้ว หรือองค์พระ พอออกมานอกห้องก็
เกร็ง เอาลูกนัยน์ตากดดู ทำให้เครียด
3. เวลากำหนดบริกรรมนิมิต ไปเพ่ง จ้อง บังคับใจ เพื่อจะเค้นภาพดวงแก้วหรือองค์พระให้
บังเกิดขึ้นในกลางกาย เมื่อไปบังคับ ปฏิกิริยาก็เกิดขึ้นที่ร่างกาย เกิดอาการตึง อาการเกร็ง เครียด
4. ตามปกติของคนที่มีความรับผิดชอบการงานในทางโลก เวลาจะมานั่ง ก็มักจะเอาจริงเอาจัง
คิดว่าเป็นภาระ เป็นหน้าที่ ก็พยายามที่จะทำให้สมาธิเกิด พยายามจะทำใจให้สงบ พยายามที่จะเค้นภาพให้ชัด
จึงทำให้เกิดความตึงเครียดในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
5. บางคนบังคับร่างกาย ตั้งใจจะนั่งให้ท่าสวย ตามแบบแผน ทำให้ไปติดอยู่กับเรื่องของกิริยา
ท่าทางมากกว่าเรื่องของใจ เลยพยายามนั่งเกร็งท้อง เกร็งมือ เหยียดหลัง ตั้งไหล่ เพื่อรักษาท่านั่งให้ถูก
ที่สุด โดยลืมไปว่าสมาธินั้นมีใจเป็นใหญ่ จึงทำให้เกร็งและทำให้เกิดความตึงเครียดตามมา
6. ความเครียดที่เกิดจากความอยาก ความอยากสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
1) ความอยากก่อนนั่ง คือ รู้ว่านั่งแล้วดี นั่งแล้วได้บุญ นั่งแล้วสวย นั่งแล้วใจจะอิ่มเอิบ
ผิวพรรณผ่องใส จึงทำให้เกิดความพยายามอย่างมากก่อนนั่ง แล้วพยายามกดใจให้หยุดนิ่ง พยายาม
นั่งนิ่ง โดยไม่ขยับตัว ประเภทนี้ใจจะไม่มีโอกาสหยุดนิ่งได้เลย ยิ่งนั่งก็จะยิ่งเมื่อย ยิ่งเครียด นั่งแล้วขาด
ความสุข
2) ความอยากที่เกิดขึ้นขณะนั่ง มักเกิดตอนปฏิบัติไปได้สักระยะหนึ่ง จนใจสบาย เริ่มได้ผลให้
พอสังเกตได้ แล้วจึงเกิดความรู้สึกอยากรู้ว่านิมิตหรือภาพที่เห็นชัดบ้าง ไม่ชัดบ้างขณะนี้นั้น คืออะไร จะ
เป็นอย่างไรต่อไปหรือพยายามจะทำให้ดีกว่านี้ ให้ดีที่สุด
บางคนอยากเห็นนิมิตให้ชัดเจน อยากได้มากๆ เพราะรู้ว่าดี เห็นคนอื่นเขาได้เราก็อยากได้ ก็เลย
เกิดความตั้งใจ พอตั้งใจมากเกินไปก็เกิดความตึงเครียดที่ระบบประสาทกล้ามเนื้อ ดวงตาเริ่มจะปิดสนิท
กดลงไปดูข้างล่าง เปลือกตาปิดสนิท เม้มเหมือนคนทำตาหยีจะปิดสนิท ลูกนัยน์ตาก็จะกดลงไปดู แสดงให้
รู้ว่ากำลังใช้กำลังระบบประสาทกล้ามเนื้อ ซึ่งเกินไปก็เครียด พอเครียดก็ไม่ได้ผล
1 พระราชภาวนาวิสุทธิ์, พระธรรมเทศนา, 5 ตุลาคม 2540.
บ ท ที่ 6 ค ว า ม เค รี ย ด ค ว า ม ตึง และวิธีแก้ไข
DOU 81