สาเหตุของถีนมิทธะ MD 203 สมาธิ 3  หน้า 59
หน้าที่ 59 / 111

สรุปเนื้อหา

ถีนมิทธะเป็นอุปสรรคในการทำสมาธิ พระอรรถกถาจารย์กล่าวถึงสาเหตุของถีนมิทธะที่แบ่งออกเป็น 5 ชนิด ได้แก่ อรติ (ความไม่ยินดี) ซึ่งเกิดจากจิตใจที่ไม่ละเอียดอ่อน และตันทิ (ความเกียจคร้าน) ที่ทำให้พลังใจอ่อนแอลง โดยมีข้ออ้างในการไม่ปฏิบัติธรรมถึง 8 ประการ ที่อาจเป็นต้นเหตุให้คนไม่ตั้งใจในการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่วงจรแห่งธรรมตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ เช่น การเหนื่อยล้าจากการทำงาน การเดินทาง การหิวโหย และภาวะสุขภาพ ซึ่งล้วนแต่ทำให้ไม่มีกำลังใจในการก้าวสู่การปฏิบัติธรรมอย่างตั้งใจ รวมถึงวิธีแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพในทางปฏิบัติ

หัวข้อประเด็น

-ถีนมิทธะ
-อรติ
-ตันทิ
-การทำสมาธิ
-ปฏิบัติธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

4.2 สาเหตุของถีนมิทธะ เหตุเกิดถีนมิทธะ พระอรรถกถาจารย์ท่านแสดงไว้ว่ามี 5 ชนิด คือ 4.2.1 อรติ ความไม่ยินดี คือไม่ยินดีในการทำงาน หรือในการทำสมาธิเป็นต้น เมื่อเกิดความไม่ ยินดี ความไม่พอใจขึ้นแล้ว ใจก็ท้อถอย ไม่อยากทำสมาธิ รวมทั้งไม่อยากทำอะไร ก็เป็นเหตุให้ง่วง เป็น เหตุให้ท้อแท้ เพราะเกิดอรติ ความไม่พอใจขึ้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนๆนั้น จิตใจไม่ละเอียดอ่อน นั่งสมาธิ น้อยเกินไป หรือทำความเพียรไม่ถูกวิธี จึงทำให้จิตหยาบ 4.2.2 ตันทิ ความเกียจคร้าน คือความเกียจคร้านนี้ ถ้าเกิดขึ้นในใจของผู้ใดแล้วก็จะทำให้ใจของ ผู้นั้นท้อแท้ท้อถอยไม่อยากจะทำการงานใดๆ มีข้ออ้างมากมาย เพื่อจะไม่ให้ตนเองต้องปฏิบัติธรรม พระพุทธ องค์ได้ตรัสถึงข้ออ้างของคนที่ไม่อยากปฏิบัติธรรมไว้ 8 ประการ ดังนี้คือ 1. เมื่อจะต้องทำงาน มีความคิดอย่างนี้ว่า เราจะต้องทำงาน เมื่อเราทำงาน ร่างกายจะเหน็ดเหนื่อย ควรที่เราจะนอนก่อน แล้วก็นอน ไม่ปรารภความเพียร เพื่อเข้าถึงธรรมที่ควรเข้าถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยัง ไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง 2. ทำงานเสร็จแล้วมีความคิดอย่างนี้ว่า เราได้ทำการงานแล้ว ก็เมื่อเราทำงานอยู่ ร่างกาย เหน็ดเหนื่อยแล้วเราควรจะนอนพักผ่อน แล้วก็นอนไม่ปรารภความเพียรนั่งสมาธิ 3. เมื่อจะต้องเดินทาง ก็มีความคิดว่า เราจะต้องเดินทาง ก็เมื่อเราเดินทางอยู่เราจะเหนื่อย ควร ที่เราจะนอนเสียก่อน คิดอย่างนี้ก็นอนเสีย ไม่ปรารภความเพียร 4. เดินทางไปถึงแล้ว ก็คิดว่า เราเดินทางถึงแล้ว เมื่อเราเดินทาง ร่างกายเหน็ดเหนื่อย เราควร นอนก่อน ว่าแล้วก็นอน ไม่ปรารภความเพียร 5. คิดอย่างนี้ว่า เราแสวงหาอาหาร อาหารก็ไม่เพียงพอแก่ความต้องการและก็ไม่ประณีต กว่า จะได้ก็เหน็ดเหนื่อย ควรจะนอน แล้วก็นอน ไม่ปรารภความเพียร 6. คิดอย่างนี้ว่า เราแสวงหาอาหาร อาหารก็ไม่เพียงพอแก่ความต้องการและก็ไม่ประณีต กว่า จะได้ก็เหน็ดเหนื่อย เหมือนถั่วที่บอบช้ำเพราะแช่น้ำนาน ควรจะนอนก่อน แล้วก็นอน ไม่ปรารภความเพียร 7 เมื่อป่วยเล็กน้อย ก็มีความคิดว่า เราป่วยเล็กน้อย ควรที่จะนอนก่อนแล้วก็นอน ไม่ปรารภ ความเพียร 8. เมื่อหายป่วย ก็คิดว่า เราหายจากไข้ได้ไม่นาน ร่างกายของเราทุรพล ยังไม่ควรทำงานควรจะ นอนก่อน แล้วก็นอน ไม่ปรารภความเพียร อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต, มก. เล่ม 32 ข้อ 14 หน้า 46. * ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค, มก. เล่ม 16 ข้อ 243 หน้า 234. 50 DOU ส ม า ธิ 3 อุ ป ส ร ร ค แ ล ะ วิ ธี แ ก้ ไ ข ใ น ก า ร ท ส ม า ธิ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More