ข้อความต้นฉบับในหน้า
ผู้อื่นที่ต้องนึกแผ่เมตตาให้คือ ผู้ที่ในขณะปัจจุบันรู้จักกัน ชอบพอกัน ทำงานร่วมกัน อยู่ด้วยกัน
แล้วนึกแผ่เมตตาให้คนประเภทเดียวกันนี้ที่เคยรู้จักเมื่อเดือนที่แล้ว ปีที่แล้ว สิบปี ห้าสิบปีที่แล้ว ฯลฯ ตาม
แต่จะนึกได้จนกระทั่งสัตว์เดรัจฉานก็ไม่เว้น หมดแล้วนึกแผ่กลับทวนมาหาในปัจจุบันอีก กลับไปกลับมาเรื่อยๆ
อนึ่งคนเหล่านี้ย่อมมีทั้งที่รักธรรมดา รักมากอย่างยิ่ง ไม่รักไม่เกลียด และที่เกลียดชัง การแผ่ก็ต้องเป็นไป
ตามลำาดับที่กล่าวไว้แล้ว
อย่างไรก็ดีมีปัญหาประการหนึ่ง คือการแผ่เมตตาให้แก่คนที่มีเวรต่อกัน มักจะกระทำได้ไม่ง่ายนัก
จิตตั้งเมตตาลงมิใคร่ได้ มักจะเกิดความเคียดแค้นมาแทนที่ ถ้าเป็นเช่นนี้ต้องใช้วิธีแก้ไขดังนี้
หวนกลับไปแผ่เมตตาให้คนเป็นที่รักโดยปกติ มีครูอาจารย์ เป็นต้น อีกครั้ง แล้วจึงแผ่ไปในคนมี
เวรต่อกันใหม่อีกหน ถ้ายังกระทำไม่ได้ จิตยังมีโทสะเกิดอยู่ ให้กระทำดังต่อไปนี้คือ กล่าวตักเตือนสั่งสอน
ตนเองว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า หากมีโจรร้ายเอาเลื่อยอันคมกล้ามาตัดอวัยวะใหญ่น้อย
ของผู้ใดแล้ว ผู้นั้นมีใจโกรธเคืองโจรนั้น ชื่อว่าไม่กระทำตามคำสอนของพระองค์ หรือ ใครก็ตามโกรธ
เคืองเราก่อน แล้วเราไปโกรธตอบ คนโกรธตอบทีหลังนี้เลวกว่าคนแรก หรือ เมื่อมีใครโกรธเคืองเรา เรา
จงสู้อดทนไม่โกรธตอบ ได้ชื่อว่ามีชัยชนะอันใหญ่หลวงในสงคราม ยากที่ใครจะกระทำได้ คนที่ไม่โกรธตอบ
เป็นผู้ประพฤติทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน คนไม่โกรธมีใจเยือกเย็นไม่เดือดร้อน พลุ่งพล่านระส่ำระสาย
มีความสบายกายสบายใจ เป็นที่สรรเสริญของนักปราชญ์ผู้มีปัญญา เป็นที่รักใคร่ของมนุษย์และเทวดาทั้ง
หลาย มีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นน้อย ผิวพรรณผุดผ่อง ไม่แก่เร็ว จะตายอย่างมีสติ ตายแล้วย่อมไปสวรรค์ ที่
กล่าวนี้เป็นประโยชน์ตน ส่วนประโยชน์ผู้อื่น คือเมื่อไม่โกรธตอบ คนที่โกรธก่อนจะโกรธไปได้ไม่นาน จะ
คลายหายโกรธลง จิตใจของเขาย่อมสบายขึ้น
แผ่เมตตาให้กับคนที่เราผูกโกรธ หรือผูกพยาบาท ถ้าทำได้นอกจากจะดับทุกข์จากความโกรธได้แล้ว
ยังทำให้มีความสุขจากการแผ่เมตตานั้นอีกด้วย และยังจะเป็นการพัฒนาจิตให้สูงขึ้นไปด้วย
วิธีการแผ่เมตตาตามหลักปฏิบัติ
นอกเหนือจากการแผ่เมตตาตามหลักคัมภีร์แล้ว การแผ่เมตตาในขณะทำสมาธิ เราอาจใช้เวลา
ช่วงหนึ่งก่อนนั่งสมาธิ แผ่เมตตา เพื่อทำให้ใจชุ่มชื่น และเกิดเมตตาจิต อันจะทำให้ใจละความพยาบาท คิด
ร้ายที่อยู่ในใจออกไป โดยใช้วิธีการแผ่เมตตา ตามที่พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้แนะนำไว้ว่า
แผ่เมตตาจิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย แผ่เมตตาจิตโดยนึกเบาๆ
ให้สบายๆ ว่าขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่ไม่มีประมาณเหล่านั้น พ้นจากทุกข์โศกโรคภัย ให้พบแต่ความ
สุขกาย สุขใจ มีความสุขทั้งนั่ง ทั้งนอนทั้งยืนทั้งเดิน ทั้งหลับ ทั้งตื่นตลอดวัน ตลอดคืน ตลอดเวลาเลย ที่มี
ทุกข์ก็ให้พ้นทุกข์ ที่มีสุขแล้วก็ให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป นึกอย่างสบายๆ แผ่ไปให้หมดเลย นึกอย่างสบาย
บ ท ที่ 3 พ ย า บ า ท แ ล ะ วิ ธี แก้ไข DOU 39