ข้อความต้นฉบับในหน้า
6
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
ท้ายก่อน ถ้าเขาทำเราเสียได้ก่อน ก็ไม่มีทางที่จะสู้เขา ถ้าเราเอาอาวุธปืนแปดนัดไว้ทาง
หัวเรือ แล้วเราไปถือเรือทางลูกจ้างเสีย เมื่อโจรมาทำร้าย เราก็จะมีทางสู้ได้บ้าง”
คิดดังนี้แล้ว ก็เรียกลูกจ้างที่ถ่อเรือแถบทรายมาถือท้าย เราออกไปถ่อแทน ถ่อ
เรือไปก็คิดไป เรือก็เดินเข้าหาที่เปลี่ยวหนักขึ้นทุกที ความคิดก็ถี่ขึ้นว่า
“ลูกจ้างที่เราจ้างมานี้ คนหนึ่งก็ไม่กี่บาท เพียง ๑๑ บาท หรือ ๑๒ บาทเท่านั้น
ส่วนตัวเราเป็นเจ้าของทรัพย์ทั้งเรือหมด ส่วนตายจะให้ลูกจ้างตายก่อนไม่ถูก เอาเปรียบ
ลูกจ้างมากเกินไป ไม่สมควร”
ถ่อไปก็คิดไปดังนี้ และคิดถี่หนักเข้า ก็ตัดสินใจเด็ดขาดออกไป
“เราเป็นเจ้าของ ให้เราตายก่อนดีกว่า จึงจะสมควร”
คิดตกลงแล้ว ก็เรียกลูกจ้างให้มาถือ ตัวก็หยิบปืนแปดนัดที่เอาไปไว้ข้างหัวเรือ
มาไว้ใกล้ตัวข้างท้ายเรือ ก็ถือท้ายเรื่อยไป
ใกล้ออกจากลัดเต็มที่ น้ำก็ขึ้น เรือข้าวที่หนักก็ตามหัวน้ำขึ้น สวนเข้ามา
ประดังกันแน่น จีนก็ส่งเสียงแต่ว่า “ตู้อ่าๆ” ประดังกันแน่น ออกก็ไม่ได้ เข้าไปก็ไม่ได้
น้ำก็น้อย เลยต่างฝ่ายต่างก็ต้องปักหลักกรานหน้า จอดกันนิ่งอยู่ เราเป็นคนท้าย ผ่าน
พ้นอันตรายมาแล้ว ก็มาคิดว่า
“การหาเงินหาทองนี้ลำบากจริงๆ เจียวหนา บิดาของเราก็หามาดังนี้ เราก็หา
ซ้ำรอยบิดา ตามบิดาบ้าง เงินแลทองที่หากันทั้งหมดด้วยกันนี้ ต่างคนก็ต่างหา ไม่มีเวลา
หยุดด้วยกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่เร่งรีบหาให้มั่งมี ก็เป็นคนต่ำและเลว ไม่มีใครนับถือแล
คบหา เข้าหมู่เขาก็อายเขา เพราะเป็นคนจนกว่าเขา ไม่เทียมหน้าเทียมบ่าเทียมไหล่
กับเขา
ปุรพชนต้นสกุลของเราก็ทำมาดังนี้ เหมือนๆ กันจนถึงบิดาของเรา แลตัวของเรา
บัดนี้ ก็บัดนี้ปุรพชนแลบิดาของเราไปทางไหนหมด ก็ปรากฏแก่ใจว่าตายหมดแล้ว
แล้วตัวของเราเล่า ก็ต้องตายเหมือนกัน”
แต่พอคิดถึงตายขึ้นมาดังนี้แล้ว ใจก็ชักเสียวๆ นึกถึงความตายที่จะมาถึงตัว
โดยไม่มีสงสัยเลย
“เราต้องตายแน่ๆ บิดาเราก็มาล่องข้าว ขึ้นจากเรือข้าวก็เจ็บมาจากตามทางแล้ว