ข้อความต้นฉบับในหน้า
168
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
ไปทำหน้าที่ไปสู่ความละเอียดที่ประณีต ลึกซึ้งลงไป สู่ดินแดนภายในกายที่ไม่มีการเรียนรู้
จากที่ใดมาก่อน ไปสู่ความรู้ที่มีความบริสุทธิ์ ที่หลุดพ้นจากกรอบบังคับของพระยามาร
ทหารนักรบผู้เข้าถึงธรรมกาย
จนกระทั่งหลวงพ่อวัดปากน้ำมรณภาพไป
และหลวงพ่อวัดปากน้ำได้ทำหน้าที่เช่นนั้น
ธงชัยที่โบกพริ้วอยู่ได้ลับลงไปเสียแล้ว นักรบที่ขาดผู้บัญชาการรบ ไหนเลยจะ
ต้านทานอยู่กรำศึกกับพระยามารได้ ไม่นานนัก นักรบก็ต้องกระจัดกระจายกันไป
กองทัพธรรมที่เคยรวมทีมกันสู้ ก็สลายทัพไป คงเหลือแต่ความเวิ้งว้างของอนาคตว่า
จะเป็นเช่นไร
วันเวลาผ่านไป ผ่านไปอย่างไม่อาจคาดคะเนได้ว่าจะมีบ้างไหม ที่จะมีใครสักคน
ที่มีน้ำใจอาจหาญ ในการดำเนินตามรอยหลวงพ่อวัดปากน้ำบ้าง
๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๘ ท่ามกลางผู้ชุมนุมที่มารวมกันเรือนหมื่น บุรุษผู้หนึ่ง
ได้ประกาศในท่ามกลางผู้ที่มาร่วมชุมนุมว่า
“ธรรมธาตุเหล่านี้มีอยู่แล้ว ดวงธรรมก็มีอยู่แล้ว กายมนุษย์ละเอียด
ก็มีอยู่แล้ว กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม กายธรรมต่างๆ มี
อยู่แล้ว ไม่ใช่ตัวของเราไปทำให้มี เพราะฉะนั้น ผู้ที่ไม่เข้าใจก็ว่า เป็น
นิมิตหลอก เป็นนิมิตลวง อะไรต่างๆ เหล่านั้น เพราะเขาเข้าไม่ถึง
ถ้าเข้าถึงแล้วไม่พูดอย่างนั้น ของเหล่านี้มีอยู่แล้ว เป็น “ตถตา” เป็นของ
ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม กายเหล่านี้ ภพ
เหล่านี้ก็มีกันอยู่ มีมาตั้งแต่เมื่อไรยังไม่มีใครทราบ ยังไม่มีศาสดาใดๆ
ได้กล่าวถึง ว่ามีมาตั้งแต่เมื่อไหร่
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านมุ่งเข้าไปแสวงหาตรงจุดตรงนี้
ว่า มีมากันตั้งแต่เมื่อไร ที่เป็นตถตานี้ กายมนุษย์ละเอียด กายมนุษย์
หยาบมาจากไหน กายมนุษย์ละเอียด ทิพย์ พรหม อรูปพรหม กระทั่ง
กายธรรม สาวไปหาเหตุเข้าเรื่อยๆ หมดอายุขัยของท่านแล้วยังไปไม่หมด
ท่านก็ตั้งความปรารถนาว่า มาเกิดอีกก็จะต้องต่อความรู้อันนี้ต่อไปอีก
ให้พบว่ามาจากไหน สิ่งที่มีอยู่แล้ว เป็นอยู่แล้วนี้
หลวงพ่อก็เช่นเดียวกัน มีความตั้งใจอย่างนี้เหมือนกัน หลวงพ่อ