ข้อความต้นฉบับในหน้า
30 ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
วิชชาธรรมกายไปเห็นวิชชาเหล่านี้หมด ไปเห็นความแก่ ความตาย เวลา
นี้เขาว่าสมภารวัดปากน้ำกำลังสู้กับความแก่ ความตาย
สู้จริงๆ ผู้เทศน์นี้แหละ ๒๒ ปี 6 เดือนเศษแล้ว ๘ เดือน ๙ วัน วัน
นี้แล้ว วินาทีนี้ไม่ได้หยุด เพียรสู้ความแก่ความตาย ไม่ได้ถอยกันเลย....”
อีกตอนหนึ่งกล่าวว่า
“ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา อยู่วัดปากน้ำก็จริง แต่ไม่รู้ว่า
สมภารวัดปากน้ำทำอะไร นี่อัศจรรย์นัก อยู่ด้วยกันตั้งหลายสิบปี อยู่วัด
ปากน้ำนี้ ๒๒ ปี 6 เดือน ๙ วัน วันนี้ไม่มีใครรู้ว่าทำอะไร รู้แต่นิดๆ หน่อยๆ
รู้จริงจังลงไปไม่มี มีก็ผู้ที่ทำวิชชาด้วยกัน รู้จริงเห็นจริงกันลงไปทีเดียว
ทำอยู่ทุกวันๆ นั่นละก็รู้จริงเห็นจริง....”
๒. เทศนาเรื่อง ขันธปริตร แสดงเมื่อ 5 มิถุนายน ๒๔๙๗
“จะให้เข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ จนกระทั่งนับ
อสงไขยชั้นไม่ถ้วนนี้ วัดปากน้ำได้พยายามทำอยู่แล้ว ๒๒ ปี เดือน ๘ ข้าง
หน้านี้ กลางเดือน ๘ ครบ ๒๓ ปี เต็มเดือนเต็มวันทีเดียว นี้ต้องการ
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ อย่างนี้หมด...”
๓.
เทศนาเรื่อง สติปัฏฐานสูตร แสดงเมื่อ ๓ ตุลาคม ๒๔๙๗
“...หมดกายพระอรหัต มีกายของพระพุทธเจ้าก็ได้ กายในกาย กาย
ในกายๆๆๆๆ มันอย่างนี้แหละ ผู้เทศน์นี้ได้ทำวิชชานี้ ๒๓ ปี ออก
พรรษานี้ก็ ๓ เดือนเต็มละ ยังไม่หมดกายละเอียดเหล่านี้เลย ไม่ได้ถอย
กลับเลย ยังไม่หมดกายละเอียดเหล่านี้เลย ยังไม่ถึงที่สุด...”
๔. เทศนาเรื่อง อริยทรัพย์ แสดงเมื่อ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๗
“ที่สุดอยู่ที่ไหนละ ผู้เทศน์ยังเรียนวิชชาไปไม่ถึง ยังไม่ถึงที่สุด
๒๓ ปี ๔ เดือนเศษแล้ว ยังไม่ถึงที่สุดเลย....ถ้าสุดเวลาใด ถึงที่สุดของ
การรักษาแล้วละก็ มนุษย์เลิกแก่ เลิกเจ็บ เลิกตายทีเดียว นี่กำลัง
พยายามทำไป....”