ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี 23
คนบนเรือก็ถามสวนมาว่า “บ้านแพนไปทางไหนละ”
ทิดชิ้นแปลกใจ เพราะคนท้องทุ่งภาคกลางนี้จะต้องรู้จักบ้านแพนดี เพราะเป็นชุม
ทางค้าขายสินค้าและท่าเรือเมล์ กับทั้งนึกถึงพิรุธของเรือลำนี้ จึงรวบรวมกำลังถีบเรือ
สองตอนให้ห่างออกไป แล้วกระโดดเข้าไปคว้ามีดในเรือ คนบนเรือสองตอนคงคิดว่า
ทิดชิ้นเข้าไปคว้าปืน จึงถอยเรือออกห่างไป
ทิดชิ้นก็ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้จะมาปล้นเรือหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่นักปล้นเรือมัก
ซุ่มปล้นเรือขาล่องกลับมาจากโรงสีมากกว่า แต่มันก็เป็นเหตุการณ์ตื่นเต้นที่ผ่านเข้ามา
ในชีวิตพ่อค้าเรือข้าวของทิดชิ้น
ส่วนชีวิตพ่อค้าเรือข้าวของเด็กน้อยอายุ ๑๔ ปี อย่างหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
สมัยเป็นฆราวาสนั้น ก็ผ่านเหตุการณ์ร้ายคล้ายอย่างนี้มาเหมือนกัน
เมื่อค้าข้าวมาได้ ๕ ปี จนมีอายุได้ ๑๙ ปี หลวงพ่อได้เล่าเหตุการณ์ครั้งนั้น ไว้
ดังปรากฏในบันทึกว่า ท่านเกือบโดนโจรปล้น ที่คลองบางอีแท่น ทำให้ท่านได้คิดและ
ตัดสินใจออกบวชตลอดชีวิต จนที่สุดได้บรรลุธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้รู้เรื่องราวของชีวิตไปตามความเป็นจริง
ชีวิตของความยากลำบากในการแสวงหาทรัพย์ ย่อมพบกันแล้วทุกคน แต่จะมี
ใครสักคนที่ได้คิดอย่างชีวิตของหลวงพ่อวัดปากน้ำ กระทั่งได้ตัดสินใจออกบวช และ
ค้นคว้าธรรมอย่างจริงจัง จนได้พบ “วิชชาธรรมกาย” นำมาสอนให้กับชาวโลกได้รู้จัก
ความจริงแท้ของชีวิต
ชีวิตของทิดชิ้นเป็นตัวอย่างของชีวิตหลายๆ ชีวิตในโลก ที่แม้จะพบความยาก
ลำบากในชีวิต แต่ก็ไม่พบการตัดสินใจที่จะทำชีวิตให้สูงขึ้นกว่านี้ได้อย่างไร
ชีวิตของหลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นชีวิตของบัณฑิตผู้มีปัญญา แม้จะมีชีวิตผ่านโลก
มาเพียง ๑๙ ปี แต่ก็มีการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ ในการมุ่งแสวงหาความเจริญยิ่งขึ้นไปให้กับ
ชีวิต นั่นคือการออกบวช เพื่อแสวงหาความจริงแท้ของชีวิต ทำให้ไม่ต้องดำเนินรอย
ตายตามไปอย่างกับบิดาและปุรพชนของท่าน
หลวงพ่อท่านมีชีวิตที่ประเสริฐกว่า เพราะได้เข้าถึงสิ่งที่ประเสริฐ คือ “ธรรมกาย”
และได้สั่งสอนเผยแผ่ “วิชชาธรรมกาย” ที่ท่านค้นพบ เพื่อชาวโลกจะได้ไม่ต้องดำเนินชีวิต