ข้อความต้นฉบับในหน้า
52
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
๘
ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ประเทศชาติอยู่ในช่วงวิกฤติ คือการเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
ทหารญี่ปุ่นรุกเข้ามาในแผ่นดินไทย บ้านเมืองระส่ำระส่าย ลูกระเบิดถูกทิ้งมาในย่าน
สำคัญๆ ที่มีทหารญี่ปุ่นเข้ามาอาศัย และเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์
ในช่วงสงครามโลกนี้เองที่ คุณยายอาจารย์จันทร์ ขนนกยูง ได้มาพบกับหลวงพ่อ
วัดปากน้ำ และหลวงพ่อได้กล่าวทักขึ้นมาว่า “มึงมันมาช้าไป” แล้วส่งเข้าโรงงานทำ
วิชชาในวันนั้นทันที
หลวงพ่อวัดปากน้ำยังคงอยู่ที่วัดปากน้ำ ในขณะที่ชาวบ้านบางคนที่หลบออกไป
ต่างจังหวัดได้ ก็พากันอพยพไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีทหารญี่ปุ่น พวกที่หนีไปที่อื่นไม่ได้ ก็
หาที่กำบัง หลบอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากอาวุธสงครามต่างๆ แต่หลวงพ่อได้สั่งให้ปิด
ประตูโรงงานทำวิชชา ห้ามเข้าออก ถ้าวิชชาธรรมกายไม่จริง ช่วยบ้านเมืองไม่ได้ ก็ให้
ตายอยู่ในนี้ทั้งหมด
เสียงหวอ....สัญญาณบอกให้รู้ว่าจะมีเครื่องบินทิ้งระเบิด บินมาในละแวกที่อยู่นี้
ให้หาที่กำบังโดยเร็ว แม้กระนั้นหลวงพ่อ และผู้ปฏิบัติธรรมในโรงงานทำวิชชาก็ไม่ได้
หลีกหนีไปไหน ยังคงอยู่พิสูจน์วิชชาธรรมกาย โดยเอาชีวิตเข้าแลก
สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวบ้านได้การกล่าวขานถึงอภินิหารต่างๆ ที่เกิด
จากแม่ชีผู้ปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงพ่อ ในวัดปากน้ำ ช่วยบ้านเมืองให้รอดพ้นอันตราย
ในปลายสงครามโลก ครั้งที่ ๒ ปี พ.ศ.๒๕๔๗ พระเดชพระคุณพระราชภาวนา
วิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ได้มาเกิดแล้วที่ จ.สิงห์บุรี
ปลายปี พ.ศ.๒๔๘๘ สงครามสงบแล้ว ในปีรุ่งขึ้น พ.ศ. ๒๕๔๙ รัชกาลที่ ๔ ก็ถูก
ปลงพระชนม์ ยังความสะท้านสะเทือนใจให้กับประชาชนทั้งประเทศ
เมื่อมาถึงปี พ.ศ.๒๔๙๓ ในสมัยรัชกาลที่ ๙ สงครามเกาหลีก็เริ่มขึ้น ประเทศ
ไทยส่งทหารไปร่วมรบในสงครามนี้ด้วย และปีนี้หลวงพ่อเริ่มแจกพระของขวัญรุ่นที่ ๑
ปีถัดมา พ.ศ.๒๔๙๔ ก็มีพระของขวัญรุ่นที่ ๒ ออกมาอีก ทหารหลายคนที่ไปให้สงคราม
เกาหลี ได้มีพระของขวัญของหลวงพ่อวัดปากน้ำไปด้วย หลวงพ่อได้เล่าให้ฟังในเทศนา
อธิบายพระของขวัญของท่านว่า
“ถ้าจะเล่าเรื่องศักดิ์สิทธิ์ให้ฟังสามชั่วโมงเห็นจะไม่จบ เขาเล่าให้
ฟังมากมายก่ายกอง ที่เขาเล่าในทางเกาหลี ทหารอังกฤษ อเมริกัน ทหาร