ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี 135
มารได้มากระทำการก่อกวนชวนให้เสียหาย ตั้งแต่ก่อนที่พระพุทธองค์จะตรัสรู้ก็
มาขัดขวางไม่ให้ได้ตรัสรู้ ครั้นตรัสรู้แล้วก็มาชวนให้ปรินิพพานเสียเถิด ครั้นไม่ได้ ก็มา
ข่มขู่ต่างๆ นานา จะเอาให้พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ไม่ได้ทีเดียว ครั้นเอาชนะไม่ได้ ก็มา
ห้ามไม่ให้เผยแผ่คำสอนอีก
เรื่องราวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผจญกับมาร เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่
พระองค์ทรงมุ่งแสวงหาความหลุดพ้น เริ่มต้นสั่งสมบุญบารมี จนกระทั่งบารมีเต็มเปี่ยม
บริบูรณ์ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เป็นที่น่าแปลกใจว่าการได้ตรัสรู้เป็นพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ไม่ได้ทำให้ทรงพ้นจากอิทธิพลการคุกคามของมารได้เลย
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก เป็นเรื่องที่ถูกซ่อนเงื่อนงำเอาไว้
ถ้าไม่นำมาคิดก็ไม่แปลก แต่ถ้าคิดก็เป็นเรื่องแปลก
และเป็นเรื่องน่าคิดที่จะนำไปพบ
สิ่งที่น่ารู้ และควรรู้อย่างยิ่งอีกประการหนึ่ง ซึ่งจะได้กล่าวถึงในตอนต่อๆ ไป
มาศึกษากันในเรื่องของมารที่กระทำต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันต่อไป ในวาระ
สุดท้ายของพระองค์ ในคราวที่พระองค์จะต้องปรินิพพาน เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจว่ามาร
ได้มากระทำสิ่งใดต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้พระองค์ต้องทรงปลงอายุสังขารและ
ปรินิพพานไปในที่สุด ทั้งๆ ที่ความปรารถนาของพระองค์ไม่ต้องการจะปรินิพพานเลย
ใน มหาปรินิพพานสูตร กล่าวไว้ดังนี้
ครั้งนั้น เมื่อท่านพระอานนท์หลีกไปแล้วไม่นาน มารผู้มีบาปเข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ยืนอยู่ ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง มารผู้มีบาปยืนเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคจงปรินิพพานในบัดนี้
เถิด ขอพระสุคตจงปรินิพพานในบัดนี้เถิด บัดนี้เป็นเวลาปรินิพพาน
ของพระผู้มีพระภาค”
ก็พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระวาจานี้ไว้ว่า
“ดูกรมารผู้มีบาป ภิกษุผู้เป็นสาวกของเราจักยังไม่เฉียบแหลม ไม่
ได้รับแนะนำ ไม่แกล้วกล้า ไม่เป็นพหูสูต
ไม่ทรงธรรม
ไม่
ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ไม่ปฏิบัติชอบ ไม่ประพฤติตามธรรม