ข้อความต้นฉบับในหน้า
122 ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
แต่ว่าทางไปนั้นเป็นทางเดียวกันหมด เป็นเอกายนมรรค หนทางเส้นเดียว
เมื่อจะไปต้องหยุด”
อีกตอนหนึ่งในพระธรรมเทศนา เรื่อง โอวาทปาฏิโมกข์ แสดงเมื่อวันที่ ๒๐
ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๓ ว่า
“ด้วยความอดทน ด้วยความหยุด ด้วยความอดใจนั้นแหละจึงเข้า
นิพพานได้ ถ้าไม่มีความอดทน ไม่มีความหยุด ไม่มีความนิ่ง อย่างหนึ่ง
อย่างใดแล้ว เข้านิพพานไม่ได้”
การฝึกใจให้หยุดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เข้าถึงดวงปฐมมรรคเป็นเบื้องต้น แล้วไป
ทางกลางดวงปฐมมรรค เข้าถึงดวงศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ
จนเข้าถึงกายในกายเป็นลำดับไป จนถึงธรรมกาย ถึงธรรมกายแล้วก็ไปนิพพานได้
หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเป็นผู้หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่ผู้หลง
ทาง และส่องประทีปในที่มืดให้บุคคล ผู้มีนัยน์ตาดีได้เห็น ฉะนั้น
อายตนนิพพานมีอยู่ ทางไปนิพพานก็มีอยู่ พระนิพพาน คือพระธรรมกายก็มี
อยู่ แต่เป็นเหมือนของที่คว่ำไว้ ปิดไว้ไม่ให้ชาวโลกได้รู้ได้เห็น
หลวงพ่อหงายอายตนนิพพานที่ถูกคว่ำไว้ และเปิดอายตนนิพพานที่ถูกปิดไว้ ให้
ชาวโลกได้เห็น โดยบอกอย่างตรงๆ ว่าอายตนนิพพานนั้นมีอยู่จริง และยังได้บอกหนทาง
ไปนิพพานอย่างชัดเจนว่า ต้องไปทางกลาง กลางดวงกลางกาย ด้วยวิธีการ “หยุด”
นิพพานที่ดูเป็นเรื่องไกลความเข้าใจ เป็นเรื่องที่สุดเอื้อม
เหมือนของสูงที่อยู่
สุดคว้า หลวงพ่อได้ชี้แจงแสดงไว้ว่าสามารถเข้าถึงได้ด้วยการปฏิบัติธรรม ทำใจให้ “หยุด”
ตามที่ท่านได้สั่งสอนไว้ ทำให้มีกำลังใจว่านิพพานที่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย
ท่านดำเนินไปถึงแล้ว เราเองหากปฏิบัติถูกทางไปของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย
ก็สามารถไปถึงนิพพานได้เช่นกัน
โดยเนื้อหาคำเทศน์สอนของหลวงพ่อไม่ได้มีเพียงเรื่องเกี่ยวกับดวง 5 ดวง กาย
ในกาย ธรรมกาย และนิพพาน ตามที่ตามรอยฯ ได้ยกมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น หากแต่
ว่าหมวดธรรมคำสอนอื่นๆ เช่น มงคลสูตร ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อาทิตตปริยายสูตร
โอวาทปาฏิโมกข์ ฯลฯ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ หลวงพ่อก็ได้อธิบายแนวทาง