ข้อความต้นฉบับในหน้า
102
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
กายานุปสฺสี แปลว่า เห็นตามหรือตามเห็นซึ่งกาย กาเย แปลว่า
ในกาย รูปศัพท์มีวิภัตติตรึงอยู่เช่นนั้น แปลตรงตามศัพท์
และย่นคำให้สั้นว่า ตามเห็นกายในกาย คือตามเห็นเรื่อยเข้าไปเป็น
ชั้นๆ เห็นกายมนุษย์แล้วตามเข้าไปเห็นกายทิพย์ ตามเข้าไปเห็นกาย
รูปพรหม ตามเข้าไปเห็นกายอรูปพรหม ตามเข้าไปเห็นกายธรรม ดังนี้
เป็นหลักฐานรับสมกันอยู่”
ท่านที่ได้เคยศึกษาธรรมในพระไตรปิฎกมาบ้าง ก็จะทราบเรื่อง “กายในกาย”
จากมหาสติปัฏฐานสูตรมาแล้ว การอธิบายความที่เคยได้รู้กัน คือการพิจารณาดูลม
หายใจเข้าออก ภายในกาย หรือการพิจารณาดูร่างกายว่าเป็นของน่าเกลียด หรือการ
พิจารณาถึงอิริยาบถการเคลื่อนไหวของร่างกาย เป็นต้น สรุปก็คือการพิจารณาสิ่งต่างๆ
อันเนื่องด้วยกายมนุษย์หยาบที่เห็นด้วยตาเนื้อนี้เพียงกายเดียวทั้งสิ้น
แต่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านบอกว่าตามศัพท์แล้วจะแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอก
จากการ “ตามเห็นกายในกาย” ซึ่งหมายความชัดเจนว่า ในกายหนึ่งต้องมีอีกกายหนึ่ง
อยู่ภายในกายนั้น จึงได้กล่าวอย่างชัดๆ ว่า “กายในกาย”
การตามเห็นกายในกายไม่สามารถจะกระทำได้ด้วยวิธีการผ่าพิสูจน์ร่างกาย หรือ
การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาตรวจจับดูกายภายใน แต่อาศัยวิธีการฝึกใจให้ “หยุด”
อยู่ที่ศูนย์กลางกาย และการเข้ากลางกายไปในทางสายกลาง เป็นวิธีการเดียวที่จะใช้
ตรวจสอบว่าในกายของมนุษย์ มีกายอยู่ภายในจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แม้ในมหาสติปัฏฐานสูตรจะกล่าวยืนยันไว้ว่า ในกายหนึ่งมีกายอีก
กายหนึ่งอยู่ภายใน แต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดว่า มีอยู่ที่กาย กายอะไรบ้าง
หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านได้อธิบาย “กายในกาย” ว่ามี อยู่ ๑๘ กาย คือ
กายมนุษย์
กายมนุษย์ละเอียด
กายทิพย์ละเอียด
กายทิพย์
กายรูปพรหม
กายอรูปพรหม
กายรูปพรหมละเอียด
กายอรูปพรหมละเอียด
และกายธรรมต่างๆ อีก ๑๐ กาย คือ